Page 114 - ธาดา ยิบอินซอย
P. 114

CME เป็นการขวนขวายตลอดชีพ


                  สารแพทยศาสตรศึกษา ม.อ. ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 เดือนเมษายน - มิถุนายน 2542



                        คงไม่มีผู้อ่�นใดที่ “กล้�” บอกว่�ไม่ควรมี CME. คงไม่มีผู้ใดที่คิดว่�แพทย์ไม่ควร
                  update คว�มรู้อย่�งต่อเนื่องและสม่ำ�เสมอ เพร�ะเป็นหน้�ที่ แพทย์ไทยควรมีคว�มรู้ม�กขึ้น
                  ทั้งในวิช�ชีพแพทย์และวิช�อื่น แพทย์ไทยควรมีคว�มอย�กรู้ม�กขึ้น คงไม่จำ�เป็นที่จะต้อง
                  บรรย�ยชนิดต่�งๆ ของ CME เช่น ก�รประชุมสัมมน� workshop หรือ courses ทั้งใน
                  สถ�บันฝึกและสถ�บันที่ถูกฝึก แต่! (กรุณ�ตอบแต่ละหัวข้อกับตัวเอง คำ�ถ�มเหล่�นี้ตั้งขึ้น

                  เพื่อหวังให้เร�เข้�ใจว่� ทำ�ไมถึงไม่ประสบคว�มสำ�เร็จ)
                        1. คว�มอย�กรู้ คว�มใฝ่รู้ คว�มกล้�ไปห�คว�มรู้นี้ มีอยู่ในแต่ละคนตั้งแต่เกิดหรือ
                  ต้องถูกกระตุ้นจ�กบ้�นและโรงเรียนหรือรวมทั้งสอง คือทั้ง nature และ nurtured
                        2. สิ่งเหล่�นี้เป็นวัฒนธรรมของประเทศ หรือของระบบ
                        3. สิ่งเหล่�นี้ต้อง “บ่ม” ให้สุกหรือเปล่� คือ คว�มอย�กรู้ทวีคูณต�มอ�ยุ เพร�ะ

                  ขณะอ�ยุน้อย นักศึกษ�แพทย์, แพทย์ใช้ทุน/แพทย์ประจำ�บ้�น, แพทย์จบใหม่ต้องใช้เวล�
                  ที่มีอยู่เพื่อ ท่องสอบหรือห�กินจนลืมห�คว�มรู้เพื่อพัฒน�สมองของตัวเอง
                        4. ทำ�ไมสม�คม/ร�ชวิทย�ลัย  ที่เชื่อใน  CME  จึงไม่พย�ย�มฝืนให้มีระบบ
                  re-accreditation. กลัวสม�ชิกสอบตก ? กลัวคว�มไม่ยุติธรรมด้�นไหน ? ทำ�ไมข้อแม้จึง
                  มีม�กจนยอมไม่ตรวจสอบคุณภ�พของก�รเป็นแพทย์ ? จำ�เป็นต้อง re-accredit ทุกคน
                  หรือเปล่� ?






                                                  113

                                    ศาสตราจารย์นายแพทย์ธาดา ยิบอินซอย
   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118   119