Page 110 - ธาดา ยิบอินซอย
P. 110
การที่ต้องมีผลงานวิจัยโดยแพทย์ฝึกหัด
สารแพทยศาสตรศึกษา ม.อ. ปีที่ 5 ฉบับที่ 3 เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2541
ี
่
หล�ยท่�นเชื่อว�โครงก�รแพทย์ฝึกหัดต้องม “ผลง�นวิจัย” เป็นส่วนหนึ่งของ
ื่
ี่
ข้อบังคับ ผมได้อ�นร�ยง�นวิจัยหล�ยเรองของแพทย์ฝึกหัดทเป็นส่วนประกอบของข้อบังคับ
่
่
นี้ ผมได้ยินหล�ยท่�นพูดอย�งภ�คภูมิใจว�แพทย์ฝึกหัดของเร�ต้องเลือกหัวข้อวิจัยเอง
่
่
้
เขียนโครงก�รเอง ตองไปห�คว�มช่วยเหลือเอง ฯลฯ เลยห่วงว�ผลง�นที่ออกม�ชนิด
“พอผ่�น” เช่นนี้ เป็นสิ่งที่เร�ต้องก�รจริงหรือ
ปรัชญ�หรือจุดประสงค์หลักของก�รที่ต้องมีผลง�นวิจัยคืออะไร จะช่วยให้เข�ดีขึ้น
ใช่ไหม และดีขึ้นในแง่ใด เช่น ส�ม�รถทำ�วิจัย ส�ม�รถแก้ปัญห�และปฏิบัติง�น ทำ�ให้
แพทย์นั้นเชื่อในก�รแสวงห�คว�มรู้ตลอดชีวิต ช่วยให้เข�มีคว�มถนัดเพิ่มขึ้นในก�รอ่�น
ข้อคว�มท�งก�รแพทย์และวิทย�ศ�สตร์ ถ้�ท่�นต้องก�รให้ศิษย์มีคุณภ�พทั้งหมดนี้ ท่�น
่
จะใช้วิธีใดที่จะกระตุ้นให้เข�เหล�นี้เข้�ใจต่อปรัชญ�ของวิจัย และขณะเดียวกันเข�ต้องไม ่
เรียนจ�กคว�มผิดพล�ดเสมอไป (learning from one’s mistake) พอมีวิธีที่ช่วยให้เข�
ี่
ั
ี
ี้
้
เรียนดวยตนเองเพร�ะคิดว�สนุก แตขณะเดยวกนมีพเลยงทเอ�ใจใส่อย�งถูกต้องและโดยท ี่
่
่
่
ี่
ทุกฝ่�ย (ครู ศิษย์ และสถ�บัน) สนุก และได้ผลประโยชน์ร่วม
ผมเห็นด้วยว�ผลง�นวิจัยเป็นส่วนประกอบทสำ�คัญม�กในก�รฝึกแพทย์หลังปริญญ�
่
ี่
แต่ผลง�นนี้ต้องมีหล�ยสิ่งสนับสนุนเพื่อให้มีคุณภ�พ
109
ศาสตราจารย์นายแพทย์ธาดา ยิบอินซอย