Page 86 - ธาดา ยิบอินซอย
P. 86
การสอนโดยบรรยาย
สารแพทยศาสตรศึกษา ม.อ. ปีที่ 2 ฉบับที่ 2 เดือนเมษายน - มิถุนายน 2538
จำ�ได้เมื่อ 24 ปีที่แล้ว ขณะเตรียมสอบ PhD ที่สหรัฐ ผมต้องไปฟัง ‘lecture’ ของ
นักศึกษ�แพทย์ ในหัวเรื่อง molecular transport ให้โดยอ�จ�รย์ท่�นหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงขั้น
international เผอิญนั่งแถวหลัง (เพร�ะแก่ที่สุด) ก็สังเกตว่�นักศึกษ�ส่วนม�กคุยกันหรือ
พลิกดู notes ก็ถ�มเข�ว่� ก. ทำ�ไมไม่ฟัง ข. เอ� lecture notes ม�จ�กไหน เข�ก็ตอบ
ว่� lecture notes ได้ม�จ�กพี่ซึ่งจบแพทย์ 6-8 ปีที่แล้ว ผมก็สังเกตว่�ข้อคว�มที่อ�จ�รย์
ท่�นนั้นสอนเหมือนกับ notes เลยสัญญ�กับตัวเองว่�จะไม่ยอมอยู่ในข่�ยที่ lecture ให้มัน
พ้น ๆ ภ�ระไป จะ lecture โดยสบต�ผู้ฟัง จะ lecture โดยเจ�ะจงแต่ละหัวข้อที่ต้องเน้น
และจะไม่ lecture น�น หลังจ�กกลับม�และสอนที่เมืองไทย (นักศึกษ�แพทย์และแพทย์)
ก็มีคว�มรู้สึกว่� “สอน” ไม่ดี คือ ผู้ม�ฟังไม่ได้คว�มรู้ ทั้ง ๆ ที่ผมพย�ย�มปรับหัวข้อ
เตรียมตัวอย่�งดี เขียนแผ่นใสใหม่ทุกครั้ง เพื่อเพิ่มคว�มกระตือรือร้นของตัวเอง บ�งทีก็จะ
ท่องคำ�ที่จะพูดอีกด้วย สิ่งซึ่งทำ�ให้ก�รสอนไม่ดีต�มค�ดอ�จม�จ�ก
1. ข�ด communicative skill โดยเฉพ�ะในก�รใช้ศัพท์ภ�ษ�อังกฤษ (หล�ยคน
ฟังผมไม่ออก) ปนไทย (ภ�ษ�ไทยไม่ดี)
2. พูดชนิดตั้งคำ�ถ�มม�กไปให้กับผู้ฟัง ซึ่งจุดประสงค์หลักก็เพื่อกระตุ้นให้ผู้ฟังเพิ่ม
คว�มเข้�ใจ
ึ่
ี่
ี่
3. พย�ย�มให้ข้อมูลสนับสนุน หรือพิสูจน์ข้อคว�มทเสนอ ซงเป็นวิธีทหล�ยท�นไม ่
่
ชอบ เพร�ะต้องคิดแทนจด และท่องจำ�
85
ศาสตราจารย์นายแพทย์ธาดา ยิบอินซอย