Page 6 - การสืบทอดและการดํารงอยู่ของโนราโรงครูวัดท่าแค ตําบลท่าแค อําเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
P. 6
RMUTP Research Journal Humanities and Social Sciences Vol. 4, No. 1, January-June 2019
Alfred Reginald, Radcliffee (อ้างถึงใน ทรงสิริ วิชารานนท์, 2559, น. 35) ที่มองว่าหน้าที่ทางสังคม
ื
�
ี
เป็นส่วนสนับสนุนให้โครงสร้างสังคมคงอยู่อย่างต่อเน่อง เพราะสังคมมีกระบวนการทางสังคมท่ทาให้สังคมเกิด
ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น บรรทัดฐาน ค่านิยม ความเชื่อ วัฒนธรรม และประเพณี
ี
อีริค โรเธนเบอร์เลอร์ (อ้างถึงใน ชุตินิษฐ์ ปานคา และวนาวัลย์ ดาต้, 2560, น. 155) กล่าวว่า พิธีกรรมประกอบ
�
ิ
�
ี
ิ
ไปด้วยรูปแบบของการกระทาและกระบวนความคิด พิธีกรรมจึงเป็นส่งท่ผู้คนปฏิบัต และแสดงพฤติกรรมน้นออกมา
ั
ี
ี
ี
เช่นเดยวกับท่ตนคิด ขณะท่ข้อมูลจากประวัติศาสตร์และการสังเกตแสดงว่า รูปแบบทแสดงให้เห็นมีความหลากหลาย
่
ี
่
่
ี
่
ั
ู
�
ิ
ิ
้
่
่
้
ี
้
้
ั
และไมคงทในบางสวนของกระบวนความคดและพธีกรรม สาหรบผทเขารวมพธกรรมบอยครงแลวกเกดความเข้าใจ
ิ
็
ี
่
ิ
ี
ึ
�
ื
ในพิธีกรรมแตกต่างกันไปนั้น จะข้นอยู่กับชุดความรู้และการกระทาท่ผ่านประสบการณ์ของแต่ละคน และเม่อกล่าวถึง
ั
ั
ี
ั
บทบาทของพธีกรรมแล้วพบว่า พิธกรรมไม่ได้หมายถึงการกระทาของปัจเจกบุคคลเท่าน้น หากแต่มความสมพนธ์กับ
ิ
�
ี
ึ
โครงสร้างทางสังคมซ่งประกอบด้วยภาษาและระบบสัญลักษณ์ ประเพณีรวมถึงศีลธรรมในด้านต่าง ๆ ด้วย
กาญจนา แก้วเทพ สุชาดา พงศ์กิตติวิบูลย์ และทิพย์พธ กฤษสุนทร (2554, น. 28-41) ได้ให้มุมมอง
ู
่
ื
้
ั
ี
ี
่
ื
ื
ิ
ิ
ั
ี
ื
่
ื
สาหรบนักนเทศศาสตร์ในเรองส่อพธกรรม คอ การประกอบพิธกรรมนนเป็นเรองของการสอสาร มองค์ประกอบ
�
ื
�
่
ี
ของการส่อสารร่วมด้วยเสมอ ในขณะท สมสุข หินวิมาณ และคณะ (2553, อ้างถึงใน ชุตินิษฐ์ ปานคา และ
วนาวัลย์ ดาตี้, 2560, น. 155-156) ได้ให้ข้อสังเกตด้านลักษณะร่วมและลักษณะที่แตกต่างระหว่างสื่อพิธีกรรมและ
�
ั
ื
ี
ส่อสารมวลชนว่า ในขณะท่ส่อสารมวลชนเกิดข้นในโลกยุคสมัยใหม่ ส่อพิธีกรรมกลับมีกาเนิดต้งแต่โลกยุคเก่า และใน
ื
ึ
ื
ขณะที่พิธีกรรมมีการปรับเปลี่ยน แต่ก็มีการคงรักษาไว้ซึ่งความเก่าแก่ เช่น การเปลี่ยนวัสดุในการประกอบพิธีกรรม
จากวัสดุธรรมชาติเป็นวัสดุจ�าพวกพลาสติก เป็นต้น
วิธีด�าเนินการวิจัย
งานวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ท�าการศึกษาโดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) และการสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการกับกลุ่มผู้ให้ข้อมูล
ั
และใช้การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วมและแบบมีส่วนร่วมในข้นตอนต่าง ๆ ของพิธีกรรมโนราโรงครูวัดท่าแค รวมถึง
การศึกษาข้อมูลจากเอกสาร ต�ารา รายงาน เอกสารทางวิชาการต่าง ๆ
กลุ่มผู้ให้ข้อมูล
กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักในการวิจัยครั้งนี้ มีจ�านวน 30 คน โดยผู้วิจัยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยตรงกับพิธีกรรม จ�านวน 2 คน 2) ผู้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพิธีกรรม จ�านวน 4 คน และ 3) ประชาชนที่มา
�
ึ
ั
ชมพิธีกรรมเพียงอย่างเดียว โดยมีท้งตัวแทนกลุ่มวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ท่มีความสนใจ จานวน 24 คน ซ่งผู้วิจัย
ี
ื
ู
ุ
ู
ู
ู
ุ
ู
ึ
ิ
ี
ี
่
ี
�
ิ
ู
ทาการศกษาเฉพาะกล่มผ้ให้ข้อมลทเข้าร่วมงานประเพณพธโนราโรงครเท่านน โดยผ้วจยเลอกกล่มผ้ให้ข้อมล
้
ั
ั
โดยใช้วิธีการแบบเจาะจง พิจารณาจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับโนราโรงครูเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกกับผู้ที่มีบทบาทต่อพิธีกรรม
หลังจากนั้นใช้วิธีการเลือกสุ่มตัวอย่างแบบ Snowball Technique เพื่อท�าการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลท่านอื่นที่มาชม
โนราโรงครู ทั้งนี้ เนื่องจากงานวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ดังนั้น การบันทึก
ข้อมูลภาคสนามจ�าเป็นต้องระบุรายละเอียดต่าง ๆ ที่นักวิจัยได้จากการสัมภาษณ์ จ�าเป็นต้องมีเครื่องมือช่วยในการ
5