Page 45 - การรับรู้ภาพลักษณ์สินค้าของที่ระลึกจังหวัดสตูล
P. 45

30







                       Theory) ในสมัยกํอน และได๎น ามาประยุกต์ใช๎อธิบายเกี่ยวกับการสื่อสารวํา ผู๎รับสารที่มีคุณลักษณะ
                       ที่แตกตํางกัน จะมีความสนใจตํอขําวสารที่แตกตํางกัน

                              ปรมะ สตะเวทิน(2550:112-118)ได๎อธิบายถึงคุณสมบัติเฉพาะของตน ซึ่งแตกตํางกันในแตํ

                       ละคน คุณสมบัติเหลํานี้จะมีอิทธิพลตํอผู๎รับสารในการท าการสื่อสาร  อยํางไรก็ตามในการสื่อสาร
                       ในสถานการณ์ตําง ๆ กันนั้น จ านวนของผู๎รับสารก็มีปริมาณแตกตํางกันด๎วยวิเคราะห์ผู๎รับสารที่มี

                       จ านวนน๎อยคนนั้นมักไมํคํอยมีปัญหา   หรือมีปัญหาน๎อยกวําการวิเคราะห์ผู๎รับสารที่มีจ านวนมาก

                       เนื่องจากการวิเคราะห์คนที่มีจ านวนน๎อย เราสามารถวิเคราะห์ผู๎รับสารทุกคนได๎ แตํในการวิเคราะห์
                       คนจ านวนมาก  เราไมํสามารถวิเคราะห์ผู๎รับสารแตํละคนได๎   เพราะมีผู๎รับสารจ านวนมากเกินไป

                       นอกจากนี้ผู๎สํงสารยังไมํรู๎จักผู๎รับสารแตํละคนด๎วย ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์ผู๎รับสารที่

                       ประกอบไปด๎วยคนจ านวนมากก็คือ   การจ าแนกผู๎รับสารออกเป็นกลุํม   ๆ  ตามลักษณะประชากร
                       (Demographic  Characteristics)  ได๎แกํ  อายุ  เพศ  สถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ   การศึกษา

                       ศาสนา สถานภาพสมรส เป็นต๎น ซึ่งคุณสมบัติเหลํานี้ล๎วนแล๎วแตํมีผลตํอการรับรู๎  การตีความ และ

                       การเข๎าใจในการสื่อสารทั้งสิ้นกิติมา สุรสนธิ 2548:15-17

                              1.  เพศ  (Sex)  หญิงชายมีความแตกตํางกันทั้งในด๎านสรีระ   ความถนัด  สภาวะทางจิตใจ
                       อารมณ์  จากงานวิจัยทางด๎านจิตวิทยาทั้งหลายได๎แสดงให๎เห็นถึงความแตก ตํางอยํางมากในเรื่อง

                       ความคิด คํานิยม และทัศนคติ ทั้งนี้เพราะวัฒนธรรมและสังคมได๎ก าหนดบทบาท  และกิจกรรมของ

                       คนสองทั้งเพศไว๎แตกตํางกัน

                              2.  อายุ  (Age)  อายุเป็นปัจจัยที่ส าคัญประการหนึ่งตํอพฤติกรรมการสื่อสารของมนุษย์
                       เนื่องจากอายุจะเป็นตัวก าหนดหรือเป็นสิ่งที่บํงบอกเกี่ยวกับความมีประสบการณ์ในเรื่องตําง  ๆของ

                       บุคคล ดังค ากลําวที่วําผู๎ใหญํอาบน้ าร๎อนมากํอน เกิดมาหลายฝน หรือเรียกคนที่มีประสบการณ์น๎อย

                       กวําวําเด็กเมื่อวานซืน   เป็นต๎น  สิ่งเหลํานี้ล๎วนแล๎วแตํเป็นเครื่องบํงชี้หรือแสดงความคิดความเชื่อ
                       ลักษณะการโต๎ตอบตํอเหตุการณ์ตําง   ๆ  ที่เกิดขึ้นของบุคคล   คนเราโดยทั่วไปเมื่ออายุเพิ่มขึ้น

                       ประสบการณ์สูงขึ้น  ความฉลาดรอบคอบก็เพิ่มมากขึ้น   วิธีคิดและสิ่งที่สนใจก็จะเปลี่ยนแปลงไป

                       ด๎วย
                              3. การศึกษา (Education) การศึกษาหรือความรู๎ เป็นลักษณะอีกประการหนึ่งที่มีอิทธิพลตํอ

                       ผู๎รับสาร การที่คนได๎รับการศึกษาที่ตํางกัน ในยุคสมัยที่ตํางกัน ในระบบการศึกษาที่แตกตํางกันจึง

                       ยํอมมีความรู๎สึกนึกคิด อุดมการณ์ และความต๎องการที่แตกตํางกัน  คนทั่ว ๆ ไปมักจะสนใจหรือยึด
                       แนวความคิดในแนวสาขาของตนเป็นส าคัญ  และบุคคลมักมีลักษณะบางประการที่แสดงหรือบํงชี้

                       ถึงพื้นฐานการศึกษาหรือสา ขาวิชาที่เรียนมา  เนื่องจากสถาบันการศึกษาเป็นสถาบันที่อบรมกลํอม

                       เกลาให๎บุคคลมีบุคลิกภาพไปในทิศทางที่แตกตํางกัน ทางด๎านครูผู๎สอนก็มีอิทธิพลตํอความคิดของ
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50