Page 98 - ธาดา ยิบอินซอย
P. 98
Research Mindedness
สารแพทยศาสตรศึกษา ม.อ. ปีที่ 3 ฉบับที่ 3 เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2539
สำ�คัญม�กในก�รพิจ�รณ�หัวข้อนี้ว่�ใช้คว�มหม�ยตรงกัน วิธีหนึ่งที่จะให้เข้�ใจ
ทุก implications ของคำ�วิจัยนี้ก็โดยตั้งคำ�ถ�ม : วิจัยในที่นี้ต้องเป็น basic science ใน
ทุกกรณีหรือเปล่� ต้องเขียนผลง�นลงตีพิมพ์หรือเปล่� ทำ�วิจัยโดยไม่ทำ� “experiment”
(หรือทดสอบ) ได้ไหม ? Research mindedness โดยไม่เขียน manuscript จะได้ไหม
ถ้�นักศึกษ�แพทย์และแพทย์ทุกคนเขียนหนึ่ง manuscript ทุก 3 ปี ใครจะเป็นผู้ตรวจ
สอบเพื่อ feed back และจะมี journal ให้ลงไหม ? (คงประม�ณ 5 พันข้อคว�มต่อปี)
ี่
ึ่
ั้
ผมเองก็คงตอบคำ�ถ�มทตงให้ไม่ได แต่จะเน้น “research mindedness” ซงอ�จเป็นทัศนคต ิ
้
หรืออุดมคติในก�รอ่�น คิด และปฏิบัติโดยใช้หลักฐ�นที่เหม�ะสมเป็นเกณฑ์ ถ้�เข�จะเป็น
ิ
์
นักวิจัยในภ�ยหน้� สิ่งเหล่�นี้ก็จะได้รับก�รพัฒน�อย่�งต่อเนื่อง ถ้�จะเป็นแพทยปฏิบัต
ื่
ู้
สิ่งนี้ก็อ�จกระตนให้อย�กเขียนข้อคว�ม อย�กรวบรวมข้อมูลจ�กผป่วยหรือจ�กว�รส�รเพอ
ุ้
เผยแพร่ จุดเด่นของหลักก�รนี้คือทำ�เพร�ะคิดว่�สนุกและท้�ท�ย ถ้�อยู่ในตำ�แหน่งที่ต้อง
บริห�รสถ�บัน หน่วยง�นหรือโครงก�ร ก�รรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงก็เป็นก�รกระทำ�ซึ่ง
อยู่ในข่�ยของ research-mindedness อยู่แล้ว บ�งท่�นอ�จมีคว�มรู้สึกว่�ผมเน้น
“ร�ยง�น” และ “เผยแพร่” ม�ก
97
ศาสตราจารย์นายแพทย์ธาดา ยิบอินซอย