Page 101 - ธาดา ยิบอินซอย
P. 101
ผมอยากให้มี ปี 7 ของการศึกษาหรืออาจเรียกว่า
ปีหนึ่งของการใช้ทุนโดยให้ใช้ปีนี้เพื่อเพิ่มคุณภาพของ
แพทย์จบใหม่ เป็นการขัดเกลาแพทย์ที่จะไปทำางาน
ใน 2-3 ปีข้างหน้าให้มีโอกาสเพิ่มทักษะ
เพื่อ “เอาไปใช้ได้เลย”
็
เพร�ะอยู่ใกล้โรงพย�บ�ลจังหวัด หรือเพร�ะข�ดบุคล�กร ก�รฝึกกไม่จำ�เป็นต้องเนน
้
ศัลยกรรม เข�อ�จต้องฝึก personal relationship เข�อ�จต้องฝึกสุขศึกษ� ฝึกกฎหม�ย
ด้�นส�ธ�รณสุข ฝึกก�รดูแลผู้ป่วยนอกแผนกอ�ยุรศ�สตร์และเด็ก ฝึกก�รบริห�ร ฝึกเพื่อ
ทำ�ให้ง�นเข�ร�บรื่น ฝึกเพื่อทำ�ให้ง�นของเข�มีคุณภ�พ ไม่ใช้ฝึกเองหรือฝึกกับผู้ป่วยจน
ง�นดีขึ้น ฝึกหรือสอนอย่�งไร? ในกรณีของโรงพย�บ�ลชุมชน ควรขย�ย tutorial ที่รุ่นพี่
ทำ�อยู่ขณะนี้ ควรใช้ 10-15 วันในขั้นแรก พูดคุยชนิดกลุ่มย่อย หลังจ�กนั้นแล้วก็ให้มีก�ร
เยี่ยมเยียนหรือก�รพบปะสม่ำ�เสมอ มีระบบติดต่อโดย VDO/TV ผ่�นส�ยโทรศัพท์หรือ
ด�วเทียม สำ�หรับแพทย์ที่อยู่ รพศ./รพท ก็ให้เข�ฝึกทักษะที่เข�ต้องปฏิบัติ ต้องเลือกผู้ฝึก
ให้ดีกว่�ขณะนี้ซึ่งเป็นก�รฝึกชนิดต�มมีต�มเกิด บ่อยครั้งผู้ฝึกไม่ว่�งหรือไม่ห�เวล�ว่�งให้
จึงกล�ยเป็น “ฝึกกับผู้ป่วย” ซึ่งก็ไม่ใช่เป็นคว�มผิดของผู้ใดนอกจ�กเจ�ของหน่วยง�น
้
่
ี
ในกรณีท่ใช้ทุนกับกระทรวงกล�โหมหรือในกรุงเทพฯ ก็เช่นเดียวกัน ขอให้ตรึกตรองอย�งดี
ี่
้
ในด�นแผนก�รฝึก กลุ่มใดที่เริ่ม specialised เช่น จะฝึกศัลย์ที่ รพศ. หรือทโรงเรียนแพทย ์
ภูมิภ�ค ควรใช้เวล�ทบทวน anatomy และ basic science ฯลฯ โดย tutorial, lecture,
CAI, demonstration ต่�ง ๆ (ซึ่งได้เกริ่นไว้แล้วในหัวข้อหลักสูตรว่� hard science หล�ยชนิด
อ�จถูกลดในปีแรกๆ เพร�ะสำ�คัญน้อยกว่�วิช� communicative skill)
บ �งท่�นอ�จแย้งว่� “เห็นด้วยในหลักก�ร แต่ก�รทำ�เช่นนี้ไม่สะดวกและก็ยังไม่มีที่
รองรับ ฯลฯ” ผมก็คงขอถ�มว่�เร�ต้องก�รคุณภ�พ เร�ต้องก�รก�รบริห�รที่เหม�ะสมกับ
่
้
คว�มหวังของ “ลูกค�” ใช่ไหม เร�ยอมรับว�ง�นแพทย์นั้นหล�กหล�ย ถ้�เป็นเช่นนั้น
ี่
ก็ควรให้เข�ได้รับก�รฝึกฝนทเจ�ะจงกับง�นทเข�ต้องทำ� ไม่ใช่เพียงแต่ฝึกให้จบหลักสูตรซง ึ่
ี่
องค์กรใดตั้งขึ้น
100
ครูแพทย์ผู้ประเสริฐ