หมวดหมู่
บุคคลสำคัญ
ภาพจาก : https://kyl.psu.th/uAYWur-Zb
จุติ บุญสูง ต้นตระกูลบุญสูง ผู้ก่อตั้งโรงแรม JB หาดใหญ่ (ปัจจุบัน (๒๕๖๖) ถุกเปลี่ยนมือมาเป้นกลุ่มหรรษา) และเป็นนายเหมืองแร่ เป็นนักธุรกิจที่สำคัญคนหนึ่งของภาคใต้ จุติ บุญสูง เป็นบุตรของนายเองเซ่ง นางฟุ้งหงี่ บุญสูง เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๒ ที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา จุติ บุญสูง เป็นคนเฉลียวฉลาด เงียบขรึม รักสงบ และกระตือรือร้นในการทำงานมาตั้งแต่เด็ก สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนเต้าหมิง (โรงเรียนสอนภาษาจีน) ที่อำเภอตะกั่วป่า จบระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนตะกั่วป่าเสนานุกูล จังหวัดพังงา ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๖๕ ได้ไปศึกษาต่อที่ Penang Free School ณ รัฐปินัง ประเทศมาเลเซีย ระหว่างศึกษาอยุ่ในโรงเรียนนี้ได้สร้างเกียรติประวัติไว้โดยสอบไล่ได้เป็นที่ ๑ ของชั้นอีกด้วย ศึกษาอยู่ในโรงเรียนนี้ ๗ ปี จบการศึกษาชั้น High School ได้รับประกาศนียบัตร Senior Cambribge จึงได้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่พังงาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ เมื่อเดินทางกลับมาพังงาแล้วก็ได้เข้าช่วยเหลือกิจการทุกอย่างของบิดาอย่างแข็งขัน จนกระทั่งถึงได้แต่งงานกับนาวสาวสวาท ณ นคร มีบุตรชายหญิง ๕ คน ต่อมาได้ภรรยาอีก ๒ คน มีบุตรด้วยกันอีก ๖ คน บุตรธิดาทุกคนได้รับการศึกษาสูง และมีฐานะดีทั้งสิ้น บุตรบางคนเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดี เช่น นายไมตรี บุญสูง นายประหยัด บุญสูง เป็นต้น
ในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ บิดาได้ถึงแก่กรรม จุติ บุญสูงจึงรับมรดกกิจการต่าง ๆ ของบิดาส่วนหนึ่ง และได้ดำเนินการจนทำให้กิจการต่าง ๆ เหล่านั้นเจริญขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถตั้งเป็นบริษัทดำเนินการธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมขึ้นมากมาย เช่น บริษัท อีซูซุบอดี้ จำกัด บริษัท นิปปอนด์ เดนโซ่
เซลล์ จำกัด บริษัทจุติพานิช จำกัด เป็นต้น จุติ บุญสูง ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๒๕ รวมอายุได้ ๗๓ ปี
งานด้านสังคม
จุติ บุญสูง เป็นบุคคลที่ได้ทำประโยชน์ให้กับจังหวัดพังงา และสังคม ในด้านต่าง ๆ มากมาย ประกอบด้วย
๑. ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองตะกั่วป่า
๒. ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกสมาคมอุตสาหกรรมเหมืองแร่แห่งประเทศไทย (หลายสมัย)
๓. เป็นตัวแทนผู้ค้าแร่เพื่อทำสัญญาราคาแร่กับกลุ่มผู้ค้าแร่ระหว่างประเทศหลายฉบับ (พ.ศ. ๒๔๙๖-๒๕๒๕)
๔. เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยไปประชุมร่วมกับสมาคมผู้ค้าแร่ระหว่างประเทศในวาระต่าง ๆ (ไม่น้อยกว่า ๕๐ ครั้ง)
๕. เป็นประธานมูลนิธิเงินภัณฑ์กันชนดีบุก เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการและนักศึกษาไปเรียนเพิ่มเติมในด้านธรณีวิทยาและแร่
๖. ได้บริจาคทรัพย์สินที่ดินเป็นมูลค่านับสิบล้านบาท เพื่อสร้างสิ่งสาธารณประโยชน์ ได้แก่
๖.๑ บริจาคเงินสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลตะกั่วป่า โรงพยาบาลศิริราช
๖.๒ สร้างอาคารเรียนให้กับโรงเรียนตะกั่วป่าเสนานุกูล (อาคารจุติ บุญสูง)
๖.๓ บริจาคเงินสร้างอุโบสถให้กับวัดต่าง ๆ ในจังหวัดพังงา ภูเก็ต ยะลา
๖.๔ บริจาคเงินสร้างมัสยิดฮิดายะตัลอิสลาเมียะห์ เพื่อชาวไทยมุสลิมที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
๖.๕ สร้างสถานที่ราชการอื่น ๆ และบริจาคที่ดินหลายร้อยไร่ ให้แก่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินและโรงเรียนในเขตจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดปทุมธานี
๖.๖ บริจาคเงินให้กับมูลนิธิต่าง ๆ บริจาคเงินเป็นทุนการศึกษาแก่เยาวชนและบริจาคเงินการกุศลในโอกาสต่าง ๆ เป็นต้น
เกียรติคุณที่ได้รับ
ด้วยความรู้ความสามารถและคุณงามความดีที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติโดยตรง จุติ บุญสูง ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ถึง ๓ ชั้น คือ
- ๕ ธันวาคม ๒๕๐๐ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จตุรถาภรณ์มงกุฏิไทย
- ๕ ธันวาคม ๒๕๐๓ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จตุถาภรณ์ช้างเผือก
- ๕ ธันวาคม ๒๕๑๑ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตริตราภรณ์มงกุฏิไทย
จุติ บุญสูง เป็นนักธุรกิจที่สำคัญของภาคใต้ ได้ดำเนินธุรกิจมากมาย ทั้งที่ทำด้วยตนเองเองและร่วมมือกับต่างชาติ ประกอบด้วย
๑. ก่อตั้งบริษัทยางไทย-ญี่ปุ่น ขึ้นเพื่อผลิตยางรถยนต์ โดยที่นายจุติ บุญสูงเป็นประธานกรรมการบริษัท ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๑๑ บริษัทผลิตยางรถยนต์ดังกล่าวได้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็วและได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทไทยบริสโตน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
๒. ด้านกิจการเหมืองแร่ จุติ บุญสูง ได้ชื่อว่าคนไทยรุ่นแรก ๆ ที่บุกเบิกดำเนินกิจการเหมืองแร่ขนาดใหญ่ ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ และได้ดำเนินกิจการเหมืองแร่เจริญมาตามลำดับ มีเหมืองแร่ที่อยู่ในเครือบริษัทมากมาย มีทั้งเรือขุดแร่ขนาดใหญ่และเหมืองฉีด บริษัทที่เกี่ยวกับกิจการเหมืองแร่มีอยู่ ๒ บริษัท คือ บริษัทขุดแร่บุญสูง จำกัด และบริษัทเรือขุดแร่จุติ จำกัด ความสามารถในการดำเนินธุรกิจกิจการเหมืองแร่ของนายจุติ บุญสูง เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการเหมืองแร่ทั่วไป จนได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ประกอบการเหมืองแร่ทั่วไป จนได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ประกอบการเหมืองแร่ตัวอย่าง สำหรับกิจการขนาดใหญ่ จากกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ เนื่องในโอกาสที่กระทรวงอุตสาหกรรมฉลองครบรอบ ๒๐๐ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
๓. ก่อตั้งโรงแต่งแร่ดีบุกและพลอยที่ทันสมัยขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต สามารถแต่งแร่ดีบุกและพลอยส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ นำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศปีละไม่น้อย
๔. ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ สนับสนุนการตั้งโรงงานถลุงแร่ขึ้นในประเทศ ซึ่งทำให้ไม่ต้องส่งแร่ที่ขุดได้ไปถลุงในต่างประเทศ นอกจากนั้นยังเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งโรงถลุงแร่ดีบุกแหล่งใหม่ที่จังหวัดภูเก็ตอีกด้วยโดยให้มีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
