ฉิ้ว ทิพย์วารี
 
Back    03/07/2023, 17:08    301  

หมวดหมู่

ปราชญ์ชาวบ้าน


ประวัติ

              ฉิ้ว ทิพย์วารี เป็นบุตรนายฮวดติ้น และนางหิ้ว ทิพย์วารี เกิดเมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๐ ที่บ้านเลขที่ ๑ หมู่ที่ ๒ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๒ คน คือนางติ้ว โพธิบุตร และนายฉิ้ว ทิพย์วารี บิดามารดาประกอบอาชีพค้าขาย ทำสวน และทำกระเบื้อง ฉิ้ว ทิพย์วารีมีภรรยาคนแรกคือนางคิ่น (นามสกุลเดิมคงเช้า) มีบุตรธิดา ๕ คน คือสำเริง ทิพย์วารี สำรอง ทิพย์วารี สุเทพ ทิพย์วารี พิภพ ทิพย์วารี วันดี ทิพย์วารี และภรรยาคนต่อมาคือนางเลียบ (นามสกุลเดิมคงชู) มีบุตร ๓ คน คือปรีชา ทิพย์วารี อัมพร ทิพย์วารี สุมิตร ทิพย์วารี ต่อมาเมื่อนางคิ่นและนางเลียบถึงแก่กรรม ฉิ้ว ทิพย์วารีได้ภรรยาใหม่คือนางเอื้อน (นามสกุลเดิมน้อยสำลี) มีบุตรธิดา ๓ คน คือพัชนี ทิพย์วารี พิทักษ์ ทิพย์วารี และศักดา ทิพย์วารี 

            การศึกษา
            ฉิ้ว ทิพย์วารีได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดแหลมพ้อ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ต่อมาเมื่ออายุ ๑๗ ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดแหลมพ้อ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ได้ศึกษาธรรมศึกษาจนสอบได้ นักธรรมตรี ต่อมาได้ย้ายมาศึกษานักธรรมโท ที่วัดสระเกศ อำเภอเมืองสงขลา สอบได้นักธรรมโท ขณะเดียวกันได้สมัครเป็นนักเรียนสายสามัญของโรงเรียนธนบุรีศึกษา กรุงเทพมหานคร โดย การเรียนทางไปรษณีย์ สามารถสอบเทียบได้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และมัธยมศึกษาชิที่ ๖ ในขณะที่เป็นสามเณรฉิ้ว ทิพย์วารี สนใจการเทศน์มหาชาติ จึงได้ผืกเทศน์มหาชาติจากพระอี่ม และพระฉิม ซึ่งเป็นนักเทศน์มหาชาดิที่ผีชื่อเสียงในขณะนั้น จนสามารถเทศน์มหาชาติได้ดี โดยเฉพาะกัณฑ์มัทรี ทานกัณฑ์ วนประเวศน์ จุลพน กุมาร และชูชก นอกจากเทศน์มหาชาติได้ดีแล้ว ฉิ้ว ทิพย์วารี ยังสามารถแหล่มหาชาติได้เป็นอย่างดี
          
            เกียรติคุณ
           
ฉิ้ว ทิพย์วารี สามารถเขียนกลอนและบทหนังตะลุงได้เป็นอย่างดี แม้ความสามารถและผลงานของฉิ้ว ทิพย์วารี ยังมีคนรู้จักยกย่องอยู่ในวงแคบ เพราะข้อจำกัดของการเผยแพร่ แต่สำหรับคนที่เคยสัมผัสผลงานของฉิ้ว ทิพย์วารี ล้วนยกย่องความสามารถและผลงานการประพันธ์ของฉิ้ว ทิพย์วารี เป็นอย่างสูงทั้งสิ้น เช่น หนังกั้น ทองหล่อ หนังฉิ้น อรมุต 
นักวิชาการด้านคิลปวัฒนธรรม เช่น นายเปลื้อง ณ นคร สนิท บุญฤทธี้ และ ภาควิชา ภาษาไทยคณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฏสงขลา ยกย่องนายฉิ้ว ทิพย์วารี ว่า “เป็นกวีชาวบ้าน จังหวัดสงขลา” ปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ และ ๒๕๔๑ สำนักงานศึกษาธิการอำเภอกระแสสินธุ จังหวัด สงขลา เสนอชื่อฉิ้ว ทิพย์วารี เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม


ผลงานสำคัญ

            ฉิ้ว ทิพย์วารี มีชีวิตอยู่ในแวดวงการอ่านและการเขียนมาตลอด ขณะที่เป็นเด็กสามารถอ่านหนังสือได้คล่อง บิดามารดาบังคับให้สวดหนังสือ (อ่านหนังสือเป็นทำนอง) ให้ฟังจึงต้องสวดหนังสือต่าง ๆ เช่น นิราศเดือน สวัสดีรักษา พระอภัยมณี ลักษณะวงศ์ รามเกียรติ ๙ และกลิ่นกรอบแก้ว (วรรณกรรมพื้นบ้านที่แพร่หลายยิ่งชองลุ่มนํ้าทะเลสาบสงชลา เป็นผลงาน ของนายเสือบ้านดอนคัน ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ) ให้บิดามารดาฟังจนสามารถจำเรื่องราว และบทกลอนที่เพราะ ๆ ได้ เมื่อเติบโตขึ้นได้ศึกษาได้อ่านวรรณกรรมอีกหลาย ๆ เรื่อง เช่น ห้วงรักเหวลึก กรรณิการ์เทวี บ้านทรายทอง ยศกิจ เสือใบ เสือดำ นวโกวาท พุทธประวัติ มหาเวสสันดรชาดก ปฐมสมโพธิกถา กลบทไม่เหมือนใคร (ผลงานยองหนังประวิง หนูเกื้อ ซึ่งเป็นนายหนังตะลุงและนักแต่งกลอนกลบทที่เด่นยิ่งของภาคใต้) เป็นต้น ฉิ้ว ทิพย์วารี จึงมีพื้นฐานทางต้านการประพันธ์เป็นอยางดีนอกจากจะสนใจวรรณคดีแล้ว ฉิ้ว ทิพย์วารี ยังสนใจการละเล่นพื้นบ้านโดยเฉพาะหนังตะลุงและมโนรา ได้ติดตามดูหนังตะลุงและมโนราที่มีชื่อเสียงหลายคณะ เช่น หนังกั้น ทองหล่อ หนังฉิ้น อรมุต หนังเอี่ยม บ้านเสื้อเมือง หนังเชย เชี่ยวชาญ หนังขับ บ้านดีหลวง หนังปานบอด หนังอ่วม บ้านเก้าบ่อ หนังกื้มเนี่ยว ควนเนียง หนังพร้อม อัศวิน หนังอิ่มเท่ง ควนเนียง โนราอบอวบ สหิงพระ โนราเดิม ตรัง โนราช่วง สิชล โนราลอย บางกลํ่า โนราเอิบ ปากรอ โนราแปลก ตาน โนราวัน ตรัง เป็นต้น การได้สัมผัสอับวรรณกรรมและการละเล่นพื้นบ้าน ชื่งสัมพันธ์กับบทกลอนประกอบกับฉิ้ว ทิพย์วารี มีเพื่อนสนิทที่เป็นนักแต่งกลอน และนายหนังตะลุง คือนายแปลก มนตรี และหนังฉิ้น อรมุต ทำให้ฉิ้ว ทิพย์วารี สนใจการแต่งกลอนเป็นอย่างมาก ฉิ้ว ทิพย์วารี ไดฝึกแต่งกลอนโดยยึดวรรณคดี เรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ เป็นแบบจนสามารถแต่งกลอนได้ดี
 

           ผลงานการประพันธ์
           
ฉิ้ว ทิพย์วารี มีความสามารถสูงทางด้านการประพันธ์ มีผลงานด้านการประพันธ์ หลายประเภทหลายเรื่องที่ปรากฏดันฉบับมีดังนี้
           ๑. นิราศ ๓ เรื่อง คือนิราศนางเรียม นิราศเกาะใหญ่ และนิราศเกาะยอ
           ๒. บทหนังตะลุง ๘ เรื่อง คือเกลือจิ้มเกลือ งายสิงห์ บัวนอกบึง ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ยอดกตัญญ แรงสายเลือด สิงหราชกษัตริย์ศึก หยกสิงห์ปกาศิต
          ๓. บทกลอนสั้น ๆ ๑๐๑ บท ประกอบด้วยบทปรายหน้าบท ๑ บท บทเกี้ยวจอ ๓๐ บท บทยักษ์เดินป่า ๑ บท บทเทวา ๑ บท บทหน้าฉากโนรา ๒ บท บทสอนนาค ๑ บท บทสดุดี-อาคีรวาท ๒๐ บท บทบรรยายประวัติบุคคล เหตุการณ์สถานที่ ๑๐ บท บทบรรยายและพรรณาความรู้สึก ๑๕ บท บทรณรงค์เชิญชวน ๒๐ บท
           ๔. ประวัติศาสตร์ ๑ เรื่อง คือประวัติวัดอินทราวาส
           งานประพันธ์ของฉิ้ว ทิพย์วารี มีความกระชับลงตัว เด่นยิ่งทางการเล่นคำ และการอุปมาเปรียบเทียบ เช่น ตัวอย่าง (จากนิราศนางเรียมและบทหนังตะลุงเรื่อง ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ)

 ถึงปากประป่าเปลี่ยวคลองเคี้ยวคด น่าสยดน่านนํ้าสํ้าลึกเหลือ
ปากประหรือชื่อแปลกเราแขกเรือ ปากประเจือจุนบ้างจะอย่างไร
เช่นอย่างเราเขาจะปละปล่อยหรือ ฟังแลชื่อปากประเป็นไฉน
คงครั้งหนึ่งซึ่งผ่านแต่กาลไกล เหตุอันใดจึงได้ไว้ฉาย
เพียงคำ ย่อล่อไว้ความหมายมาก ใครผู้ฝากข้อคิดปริศนา
ขอสนองลองเสริมเดิมกิจจา ต่อคำประแปลงเล่นเป็นสำนวน
ปากประน้าวกล่าวประณามน้อมประนอบ ปากประหลอบปลอบประโลมโฉมประสรวล
ปากประสาทปราชญ์ประสงค์ตรงประมวล ปากประชวรล้วนประชดบทประชัน
ด้วยพ่อเจ้าเท่าแต่แย่เต็มทน ดังตกหล่นลงหลุมเหล้าเท่าแต่เมา
จนเสียกิจไม่คิดการงานประกอบ  สุราครอบงำใจเหมือนไฟเผา
สุดปรึกษาหาทางให้บางเบา กินเหมือนเอาเหล้าอาบขนาบตัว
 ไหนค่ากินสินค่าเหล้าเข้ามาแทรก  ดังเอาแอกมาครอบไว้รอบหัว
เมื่อนายท้ายพายขาดน่าหวาดกลัว จึงครอบครัวอนาถพลอยขาดแคลน
 เมื่อไร้ทรัพย์คับอกดังตกลึก  ให้การศึกษาลูกถูกเสียแผน
ทั้งพวกเผ่าเหล่าผู้พลอยดูแคลน  แม่สุดแสนโศกเศร้าปวดร้าวทรวง

 



 

 


ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อ/สถานที่/เรื่อง
ฉิ้ว ทิพย์วารี
ที่อยู่
จังหวัด
สงขลา


รูปภาพ
 
      Font Size  
Back to Top
Khunying Long Athakravisunthorn Learning Resources Center
Prince of Songkhla University ©2018-2024