ชาติกำเนิด
ขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) เกิดที่บ้านแหลมทราย ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เมื่อวันอังคาร แรม ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีเถะ ตรงกับวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๔๔๖ บิดาท่านชื่อกิมจั๋วน มารดาชื่อวันเลี่ยน ปู่ชื่อเส้ง ย่าชื่อซุ่น มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๘ คน ประกอบด้วย
๑. นายกิ๊มจ้าย เจริญสิน |
๒. นายกิ้มไล่ เจริญสิน |
๓. นางสาวพัว เจริญสิน |
๔. นายแปลก เจริญสิน |
๕. นายม่น เจริญสิน |
๖. นายกิ้มอั้น เจริญสิน |
๗. นายเปรย เจริญสิน |
๘. นายเชย เจริญสิน |
การศึกษา
เนื่องจากบิดามารดาของขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) เป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมือง และประกอบอาชีพค้าขาย จึงสนใจให้บุตรได้รับการศึกษาเล่าเริยนตามสภาพของบ้านเมืองในสมัยนั้น โดยเริ่มตั้งแต่เป็นเด็กวัด ซึ่งมีพระเป็นครูสอน และเลือกวัดที่มีครูดีมีชื่อเสียงอยู่ใกล้ ๆ บ้านด้วย คณะกรรมการจัดทำหนังสือประวัติครู ' ได้กล่าวถึงขุนศิลปกรรมัพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ไว้สรุปได้ว่า ขุนศิลปกรรม์พิศษ (แปลก เจริญสิน) สมัยที่เป็นเด็กวัดช่วงอายุประมาณ ๖-๗ ปี (พ.ศ. ๒๔๕๒-๒๔๕๓) พ่อได้นำไปฝากเป็นลูกศิษย์ท่านพระครูอั้น เจ้าอาวาสวัดไทรงาม ซึ่งในขณะนั้นโรงเรียนมหาวชิราวุธเปิดทำการสอนอยู่ที่คลองขวาง แต่แม่ของท่านยังนิยมให้รับการศึกษาแบบเดิมคือการอยู่วัด การเรียนแบบศิษย์วัดในเวลานั้นเลิกเรียนหลักนโมและอักษรขอมแล้ว เริ่มต้นหัดเรียน ก. ถึง ฮ. แล้วหัดประสมสระ แม่ ก กา กก กง ตามลำดับ ใช้หนังสือปฐม ก กา หัดอ่าน ต่อมาเป็นแบบเรียนเร็วราว ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ ได้ออกจากวัดไทรงามไปอาศัยอยู่กับน้า ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้กับวัดกลาง
หรือวัดมัชฌิมาวาส แล้วฝากฝังเป็นศิษย์พระใบฏิกาอ่ำ อมโร หรือต่อมาเป็นพระสมุห์อ่ำ อมโร ซึ่งขึ้นชื่อว่าสอนและอบรมเด็กดี ที่นี่เรียนสูงขึ้นกว่าเดิม หัดทำเลข บวก ลบ คูณ หาร จนคล่อง ได้อ่านหนังสือพลเมืองดิ่ ซึ่งเจ้าพระยาพระเสด็จฯ เสนาบดีกระทรวงธรรมการเป็นผู้แต่งและพิมพ์ขึ้นในระยะนั้นเด็กโตที่อ่านหนังสือถึงเล่มนี้นับว่าเป็นคนมีความรู้ชีวิตเด็กวัด เมื่อว่างงานตอนกลางคืนก็ถึงเวลาเล่น ซึ่งส่วนมากเด็กสมัยนี้ไม่นิยมกันเสียแล้วที่สนุกมากได้แก่การ "เล่นเก้" (อาเถิด, ซ่อนหา) ฟาดทึง (จงอางฟิกไข่, จงอางหวงไข่) โนราทุ่มผ้า (มอญซ่อนผ้า) ขี่ม้าส่งเมือง ที่เล่นบ่อย ๆ ไม่เบื่อคือเล่นข้าศึก เอามือเป็นดาบฟันคอกัน ส่งเสียงเยยาเกรียวกราว จนบางครั้งท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสเดินมาใกล้ ๆ ร้องขอให้เบาเสียงลงบ้างขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) สมัยเป็นเด็กวัดได้รับมอบหมายหน้าที่เป็นต้นกุฏิเป็นกำลังของอาจารย์ ทำหน้าที่ต้มน้ำ หุงข้าวด้ม ทั้งตอนเย็นให้ออกไปบอกบุญเกสัชเพลา คือรับหมากพลูจากชาวบ้านที่ส่งมาถวายพระด้วย และเมื่อมีพระบวชใหม่รู้ภาษามลายูมาอาศัยอยู่ใกล้
กับอาจารย์ จึงขอเรียนจากท่านได้เล็ก ๆ น้อย ๆ แลกเปลี่ยนกับการรับใช้ท่านเป็นพิเศษ ปี พ.ศ. ๒๔๕๖ อายุได้ ๑๐ ปี อาจารย์ส่งเข้าเรียนในโรงเรียนของวัด โรงเรียนนี้ครูเป็นพระบ้างสามเณรบ้าง เมื่อเข้าเรียนได้ไม่นาน มีฆราวาสคนหนึ่งมาสอนหนังสือ ชื่อ ม.ร.ว.เจือ มาลากุล ท่านสอนชั้นประถมปีที่ ๓ แต่ขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) ก็พลอยได้เรียนไปด้วยเพราะชั้นเรียนอยู่ติดกันและเปิด โล่งถึงกัน ระหว่างที่เป็นนักเรียนของโรงเรียนวัด ยังไม่ขาดสังกัดตำแหน่งศิษย์ท่านใบฏิกาอ่ำ อมโร ยังคงรับใช้และนอนที่วัดตามเดิม ปลายปี พ.ศ. ๒๔๕๗ สอบไล่ชั้นประถมปีที่ ๓ ซึ่งเป็นประ โยดประถมและเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนได้ ปีต่อมาจึงไปเรียนต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียน
มหาวชิราวุธ ซึ่งได้ย้ายจากคลองขวางไป ณ ที่ใหม่ติดกับวัดไทรงาม รวมเวลาเป็นเด็กวัด ๔ ปี เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดอีก ๒ ปี ได้ขึ้นชั้นมัธยมหนึ่งเมื่ออายุ ๑๒ ปี ซึ่งนับว่าค่อนข้างช้า แต่ก็ได้อย่างอื่นมาชดเชย คือการอบรมจรรยาความประพฤติ และได้เห็นกิจกรรมต่าง ๆ อันเนื่องในพระศาสนาเป็นนิสัยปัจจัยในการดำรงชีวิตต่อมา แม้จะไม่เคยได้บวชเรียนก็พอรู้เรื่องศิลธรรมขนบประเพณี เป็นประโยชน์ในหน้าที่ราชการและการครองชีวิตเมื่อโตขึ้นเป็นอย่างมาก
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนตัวอย่างมณฑลนครศรีธรรมราช "มหาวชิราวุธ" ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดสงขลา เรียนอยู่ ๔ ปี สอบไล่ได้มัธยมปีที่ ๕ เพราะได้เลื่อนชั้นกลางปีหนึ่งครั้ง เมื่อจบชั้นมัธยมปีที่ ๕ แล้ว จึงได้รับคัดเลือกเป็นครูสำรองของโรงเรียนมหาวชิราวุธ ๑ ปี ในปี พ.ศ. ๒๔๖๒ ขณะนั้นอายุเพิยง ๑๖ ปีเท่านั้น ในปี พ.ศ. ๒๔๖๓ ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถม วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ เมื่อสอบได้ประโยคครูประถม (ป.ป.) แล้วก็เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และขณะเดียวกันก็เรียนหลักสูตรครูมัธยมที่สามัดยาจารย์สมาคมด้วย ในปี พ.ศ. ๒๔๖๕ สอบไล่ได้ชั้นมัธยมปีที่ ๘ และครูประโยกมัธยม (ป.ม) สำหรับผลการสอบไล่ในชั้นมัธยมปีที่ ๘ นั้นขุนศิลปกรรมัพิเศษ (แปลก เจริญสิน) สอบได้ลำดับที่ ๑๔ จากผู้เข้าสอบทั่วประเทศจำนวน ๑๔๐ คน
ครอบครัว
ขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) สมรสกับนางสาวสมจินต์ บูรณธรรม เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ มีบุตร ๑๑ คน แต่ถึงแก่กรรมเมื่อยังเยาว์เสียหนึ่งคน ทุกคนได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี และมีวุฒิปริญญาตรี-โท ทั้งภายในและต่งประเทศ และที่สืบทอดอาชีพครูก็มีหลายคน ปัจจุบันทุกคนได้ประกอบอาชีพอย่างมั่นคงตามวิชาชีพที่ได้ศึกษามา เช่น เพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล ธุรกิจธนาคาร ผู้บริหารการศึกษาและอาจารย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนี้
1. นางอาภรณ์ สาครินทร์ |
2. นายกมลวัฒน์ ศิลปกรรมพิเศษ |
3. นางสาววลัย ศิลปกรรมพิเศษ |
4. นางสินี โจนส์ |
5. เด็กชายจารุวัฒน์ ศิลปกรรมพิเศษ ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเล็ก |
6. นายจิวัฒน์ ศิลปกรรมพิเศษ |
7. นางรุจา เลนุกูล |
8. นางเฉลิมขวัญ ชฎารัตน์ |
9. นางสาวจารุณี ศิลปกรรมพิเศษ |
10. นายสุทธิวัฒน์ ศิลปกรรมพิเศษ |
11. นางมัลลิกา อนันตพันธ์ |
การรับราชการ
ขุนศิลปกรรมัพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการและเป็นผู้ที่สร้างความเจริญให้แก่ประเทศชาติมาโดยตลอด โดยได้รับราชการในตำแหน่งต่าง ๆ มากมาย ดังนี้
- พ.ศ. ๒๔๖๖-๒๔๗๔ ครูโรงเรียนมหาวชิราวุธ เคยได้รับพระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็นรองอำมาตย์ตรีขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) |
- ๑ เมษายน ๒๔๗๔ ผู้ช่วยธรรมการมณฑลนครศรีธรรมราช |
- ๘ ธันวาคม ๒๔๗๖ ธรรมการจังหวัดยะลา |
- ๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๐ ธรรมการจังหวัดสงขลา |
- ๑ เมษายน ๒๔๘๕ ศึกษาธิการจังหวัดนครศรีธรรมราช |
- ๑๓ พฤษภาคม ๒๔๘๙ ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา |
- ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๑ ผู้ช่วยข้าหลวงตรวจการศึกษาธิการ ภาค ๕ |
- ๒๘ เมษายน ๒๔๙๕ ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา |
- ๒๘ กันยายน ๒๔๙๘8 ศึกษาธิการภาค ๙ (สงขลา) |
- ๑ เมษายน ๒๔๙๙ ศึกษาธิการภาค ๘ (นครศรีธรรมราช) |
- ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๙๙ ประจำกระทรวงศึกษาธิการ |
- ๓๑ สิงหาคม ๒๕๐๐ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ภาคศึกษา ๓ (สงขลา) |
- ๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๑ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ภาคศึกษา ๒ (ยะลา) |
- ๑ เมษายน ๒๕๐๖ ลาออกจากราชการ ฐานะรับราชการนาน และตั้งภูมิลำเนาอยู่ ณ บ้านเลขที่ ๘๐ ถนนทะเลหลวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา |
เกียรติคุณที่ได้รับ
ขุนศิลปกรรม์พิศษ (แปลก เจริญสิน) ได้สร้างผลงานไว้เป็นจำนวนมาก เช่น ผลงานด้านการจัดการศึกษา ผลงานด้านการเขียนหนังสือ และผลงานค้านการทำนุบำรุงโบราณสถาน เป็นต้น จนได้รับการยกย่องอย่งกว้างขวาง ดังที่อาภรณ์ สาครินทร์ และมะเนาะ ยูเด็น บุตรและญาติของท่าน ได้กล่าวถึงเกียรติคุณไว้ว่า...ตลอดชีวิตการทำงานขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) ยึดมั่นในความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้งตลอดถึงมีความชื่อสัตย์ ชื่อตรงต่องานอาชีพเป็นอย่างมาก ไม่เคยตักตวงผลประโยชน์จากหน้าที่การงานมาเป็นของส่วนตัวและของครอบครัว ได้สั่งสอนอบรมในเรื่องความซื่อสัตย์ให้กับลูก ๆ ทุกคน โดยเฉพาะการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขุนศิลปกรรมัพิเศษ (แปลก เจริญสิน) เกลียดมากที่สุด จึงทำให้ลูกทุกคนถือปฏิบัติในความซื่อสัตย์สุจริต หลีกเลี่ยงหน้าที่การงานที่อาจจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียได้ ผลงานอันดีเด่นด้านมนุษยศาสตร์และอักษรศาสตร์ของขุนศิลปกรรมัพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ทำให้ท่านได้รับเกียรติคุณ ประกอบด้วย
- ปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาภาษาและวรรณดี จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- เหรียญรัตนาภรณ์ชั้น ๔
ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) เป็นข้าราชการของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับราชการเกี่ยวกับการศึกษาในเขตการศึกษา ๒ และ ๓ มาเกือบตลอดชีวิตราชการ เคยไปปฏิบัติงานราชการในส่วนกลางครั้งหนึ่ง แต่เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในฐานะครูและผู้บริหารการศึกษาอย่างเต็มที่และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาการศึกษาของภาคใต้ให้ประสบผลสําเร็จ เมื่อปี ๒๕๐๖ ได้ลาออกจากราชการ มาพักและตั้งภูมิลำเนาอยู่ ณ บ้านเลขที่ ๘๐ ถนนทะเลหลวง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๓๑ รวมอายุได้ ๘๕ ปี
ขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของจังหวัดชายแดนภาคใต้ในฐานะที่ท่านได้รับราชการเกี่ยวกับการศึกษาในภาดศึกษา ๒ และ ๓ มาตลอดชีวิตราชการ ได้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในฐานะครูและผู้บริหารการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคศึกษา ๒ นับเป็นเขตการศึกษาที่มีปัญหาพิเศษ เพราะเป็นเขตที่มีหลายวัฒนธรรมประเพณี แม้กระทั่งภาษาของท้องถิ่นที่มีทั้งภาษาไทยถิ่นและมลายูถิ่น มีเด็กไทยจำนวนมากที่ใช้ภาษามลายูถิ่นเป็นภาษาแม่ ท่านจึงได้เริ่มโครงการสอนภาษาไทยแก่เด็กเริ่มเข้าเรียนที่ไม่ได้พูดภาษาไทยมาก่อน เป็นการเตรียมนักเรียนให้พร้อมที่จะเรียนวิชาต่าง ๆ ทำให้นักเรียนได้ประสบผลสำเร็จในการเรียนผลงานดีเด่นอีกประการหนึ่งของขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) คือการพัฒนาสถานที่สอนศาสนาที่เรียกว่า "ปอเนาะ" ให้กลายเป็นโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนา ซึ่งนับว่ามีคุณค่ายิ่งต่อการจัดการศึกษาในภาคใต้อย่างแท้จริง ผลงานค้านวิชาการในด้านภาษาและวรรณคดีไทยของขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) เกิดจากการได้ศึกษาภาษาและวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความหลากหลายจึงก่อให้เกิดแนวการศึกษาภาษาในแนวเปรียบเทียบ โดยได้รวบรวมคำท้องถิ่นในภาษาไทยและภาษามลายูเรียบเรียงเป็นพจนานุกรมขึ้น นับเป็นผลงานทางภาษาศาสตร์ที่มีค่ายิ่ง
ผลงานด้านการจัดการศึกษา
ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) เป็นข้าราชการของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับราชการเกี่ยวกับการศึกษาในเขตการศึกษา ๒ และ ๓ มาเกือบตลอดชีวิตราชการ เคยไปปฏิบัติงานราชการในส่วนกลางครั้งหนึ่งแต่เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในฐานะครูและผู้บริหารการศึกษาอย่างเต็มที่และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาการศึกษาของภาคใต้ให้ประสบผลสําเร็จ โดยไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งปวง ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) เป็นบุคคลที่ปฏิบัติงานดีเด่นรุ่นบุกเบิกในการพัฒนาการเรียนการสอนอย่างแท้จริง เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ทางราชการได้เสนอความดีความชอบให้ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนศิลปกรรม์พิเศษ (แปลก เจริญสิน) ตลอดจนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านมนุษยศาสตร์และอักษรศาสตร์ดีเด่น จนได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๑ นอกจากนี้ท่านยังมีผลงานด้านการจัดการศึกษาในขณะที่ดำรงตําแหน่งต่าง ๆ ที่สําคัญดังนี้
๑. ผู้ช่วยธรรมการมณฑลนครศรีธรรมราช ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) เข้ารับตําแหน่งเมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๕ โดยการสนับสนุนจากพระยาพิบูลย์พิทยาพรรค ซึ่งเป็นธรรมการมณฑลนครศรีธรรมราช และมีผลงานด้านการศึกษาที่สําคัญปรากฏให้เห็น ท่านทํางานร่วมกับพระยาพิบูลย์พิทยาพรรค เกี่ยวกับเรื่องเด็กอายุในเกณฑ์บังคับศึกษา ไม่ได้เข้าเรียนเพราะมีงบประมาณจํากัด จึงได้อาราธนาเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ จัดพระสงฆ์และสามเณรสอนเด็กขึ้นในวัด และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทําให้เด็กมีโอกาสอ่านออกเขียนได้เพิ่มขึ้น นับเป็นความคิดริเริ่มประการหนึ่ง จนกระทั่งมณฑลอื่น ๆ เอาอย่างไปจัดบ้าง ซึ่งโรงเรียนวัดเหล่านี้ในเวลาต่อมาก็กลายสภาพมาเป็นโรงเรียนประชาบาล | ||||||||||
๒ ธรรมการจังหวัดยะลา ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ได้รับราชการอยู่ที่มณฑลนครศรีธรรมราชอยู่เพียงปีเดียว ก็ย้ายไปดํารงตําแหน่งธรรมการจังหวัดยะลา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๖ เมื่อครั้งที่ท่านไปรับหน้าที่ใหม่ ๆ นั้น ที่ว่าการตั้งอยู่ ณ ตําบลสะเตง อําเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา มีสภาพล้าหลังมาก มีร้านค้าอยู่ไม่กี่แห่ง ถนนเป็นดินซึ่งเมื่อถึงหน้าฝนก็เป็นโคลนตม จะปันรถจักรยานก็ไม่ได้ เดินเท้าก็เปรอะเปื้อน ที่ทําการของธรรมการจังหวัดต้องอาศัยห้องเรียนของโรงเรียน ประจําจังหวัด คือโรงเรียนเมืองยะลาเป็นสํานักงานชั่วคราว ซึ่งชํารุดจนต้องหาไม้มาค้ํายันกันล้ม และโรงเรียนประชาบาลก็เป็นอาคารแบบชั่วคราว ผลงานด้านการศึกษาของขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ขณะที่ดํารงตําแหน่งธรรมการจังหวัดยะลา ท่านได้การสร้างโรงเรียนประจําจังหวัดยะลา ผลงานด้านการสร้างโรงเรียนประจําจังหวัดยะลาของขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิ้น) ขณะดํารงตําแหน่งธรรมการจังหวัดยะลา ไว้สรุปได้คือ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ได้รับงบประมาณให้สร้างโรงเรียนประจําจังหวัดยะลาขึ้นใหม่ แต่งบประมาณดังกล่าวไม่เพียงพอ ท่านจึงได้ขอเงินจากคณะราษฎร (กลุ่มบุคคลที่ดำเนินการการปฏิวัติสยาม พ.ศ. ๒๔๗๕) และจากจังหวัดเข้ามาสมทบด้วย หลังจากสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงได้ตั้งชื่อโรงเรียนนั้นว่า “โรงเรียนคณะราษฎรบํารุง จังหวัดยะลา” เพื่อเป็นอนุสรณ์ | ||||||||||
๓. ธรรมการจังหวัดสงขลา ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ย้ายมารับตําแหน่ง ธรรมการจังหวัดสงขลาครั้งแรก เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๔๘๐ และมีผลงานด้านการศึกษาที่สําคัญ ดังนี้
๕.๓.๓ การสร้างโรงพิมพ์คุรุสัมมนาคาร มโนช บุญญานุวัฒน์ กล่าวถึงการสร้างโรงพิมพ์ที่คุรุสัมมนาคารไว้สรุปได้ว่า ขุนศิลปกรรม์พิเศษ (เปลก เจริญสิน) ได้สร้างโรงพิมพ์และสถานที่สำหรับฝึกงานด้านหัตถศึกษาแก่ผู้มารับกรฝึกอบรม ๑ หลัง โดยได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษ าธิการที่เห็นความสำคัญว่า การจะพัฒนาการศึกษาของภาคศึกษา ๒ ให้ก้าวหน้าไปโดยรวดเร็ว จำเป็นต้องมีโรงพิมพ์ขนาดย่อม ซึ่งสามารถทำการพิมพ์ได้ ๓ ภาษา คือภาษาไทย ภาษามลายู และภาษาอังกฤษ เพื่อประโยชน์ในการจัดพิมพ์แบบเรียน การโฆษณา และเพื่อกิจการอื่น ๆ จึงได้จัดซื้อเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์การพิมพ์มาจัดตั้งเป็นโรงพิมพ์ขึ้นที่คุรุสัมมนาคาร โดยใช้งบประมาณ ๒๐๐,๐๐๐๐ บาท |
ผลงานด้านอื่น ๆ
นอกเหนือจากผลงานด้านการจัดการศึกษาแล้ว ขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน) ยังมี ผลงานดีเด่นด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งจะกล่าวถึงในประเด็นที่สําคัญ ๒ ประเด็น คือการทํานุบํารุง โบราณสถานและโบราณวัตถุ และงานด้านวิชาการ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
๑. การทํานุบํารุงโบราณสถานและโบราณวัตถุ |
จักรกฤษณ์ จุฑาทิพรัตน์. (2546). ศึกษาชีวประวัติและผลงานของขุนศิลปกรรมพิเศษ (แปลก เจริญสิน). วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัย ทักษิณ.
เฉลิม มากนวล, บรรณาธิการ. (2530). แล--รูสมิแล. สงขลา : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.