คณะโนราละมัยศิลป์
 
Back    13/01/2021, 10:13    3,029  

หมวดหมู่

การแสดง


ประเภท

อื่น ๆ


ประวัติความเป็นมา/แหล่งกำเนิด


ภาพจาก : https://www.facebook.com/โนราละมัย-ศรีรักษา-156280067873074/photos/?ref=page_internal

        คณะโนราละมัยศิลป์ มีหัวหน้าคณะคือแม่ละมัย นามสกุลศรีรักษา เกิดวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยโนราละมัยมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๔ คน และมีพี่ต่างบิดา อีก ๓ คน โดยที่ครอบครัวของโนราละมัยเป็นครอบครัวศิลปินทั้งครอบครัว โดยสืบเชื้อสายโนรามาจากทวดและปู่คือโนราช่วงและโนราเกลื้อน เมื่อโนราละมัยอายุได้ ๑๐ ขวบ บิดานําไปฝากไว้กับน้าคือโนราร่วม เกตุแก้ว ซึ่งเป็นลูกศิษย์โนราเติมจังหวัดตรัง โนราละมัยจดจําลักษณะการรําและการร้องกลอนของโนรา มาจากโนราร่วมซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าแล้วนํามาฝึกหัดด้วยตนเองจนชำชาญ มีบิดาเป็นผู้ผูกกลอนที่มีความชํานาญได้ผูกกลอนให้ในราละมัย แล้วนําไปหัดร้องหัดว่ากลอน  ขณะที่ออกไปช่วยบิดากรีดยางพารา จนโนราละมัยมีความชํานาญในด้านการว่ากลอนโนรา ต่อมาเริ่มฝึกลูกกลอนด้วยตนเองจนสามารถผูกกลอนสดได้ ทําให้มีความสามารถโดด เด่นทางด้านการว่ากลอนสุดตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุได้ ๑๒ ปี ได้เข้าครอบเทริด ผูกผ้า โดยมีโนราวันเฒ่า นครศรีธรรมราช เป็นผู้ทําพิธีให้โนราละมัยอยู่กับคณะโนราร่วมจนกระทั่งโนราร่วมเสียชีวิต จึงออกมารําอยู่กับคณะโนราเจริญศิลป์ และโนราคณะอื่น ๆ อีกหลายคณะ เช่น เช่น คณะโนราเลื่อน (จังหวัดตรัง) คณะโนราแป้น เครื่องงาม (จังหวัดตรัง) คณะโนราอบอวบ (จังหวัดสงขลา) คณะโนรายก ชูบัว (จังหวัดสงขลา) ขณะที่รำอยู่กับคณะโนรายก ชูบัว ท่านได้รับการชักชวนให้ไปเป็นลูกจ้างสอนรําโนราที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยเริ่มสอนให้กับ คณะแพทย์ศาสตร์ สอนติดต่อกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๗ และในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับการบรรจุให้เป็นลูกจ้างประจํา ตำแหน่งนักการที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีหน้าที่สอนรํามโนราห์ให้กับบุคลากร นักศึกษา ตลอดถึงบุตรหลานของบุคลากรในมหาวิทยาลัย และออกรำเผยแพร่เพื่อส่งเสริมกิจการของมหาวิทยาลัย หลังจากที่โนรายก ชูบัว เสียชีวิตลงและได้เข้าทํางานที่มหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ ก็ได้ไปรําโนรากับคณะโนราอาจารย์สาโช นาคะวิโรจน์ ที่ วิทยาลัยครูสงขลา (มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา) ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้ตั้งคณะโนราเป็นของตัวเอง ผู้ก่อตั้งคณะคือโนราอารีย์ศิลป์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่าน ต่อมาโนราอารีย์ศิลป์ได้เลิกเล่นโนรา ท่านจึงได้ตั้งคณะเองใช้ชื่อว่าคณะโนราละมัยศิลป์
       โนราละมัยศิลป์ เป็นผู้หนึ่งที่ได้ถ่ายทอดการแสดงโนราให้กับเด็กและเยาวชน โดยตัดจุกให้ลูกศิษย์ ๓-๔ คนในจํานวนนั้นผ่านพิธีกรรมครอบเทริด ผูกผ้าใหญ่ ให้หลาย ๆ คน ปัจจุบันโนราละมัยศิลป์ ได้ไปเปิดการสอนโนราให้กับเด็ก  เยาวชน ที่บ้านเกิดคือจังหวัดตรัง เพื่อให้เด็ก ๆ รุ่นหลังได้อนุรักษ์สืบสานศิลปะประจำศิลปินประจำภาคใต้ให้อยู่คู่ภาคใต้ต่อไป


ความเชื่อ

      ความเชื่อในการแสดงโนราของคณะโนราละมัยศิลป์ มี ดังนี้

๑. ความเชื่อเรื่องตายายโนราหรือครูหมอโนรา
     โนราคณะละมัยศิลป์เชื่อว่าตายายโนราหรือครูหมอโนรา คือครูต้นแบบของโนราและครูโนราที่ตายไปแล้ว โดยเชื่อว่าตายายโนรามีความผูกพันกับลูกหลาน ที่มีเชื้อสายโนราหากลูกหลานที่มีเชื้อสายไม่เคารพบูชาตายาย หรือครูหมอโนราอาจจะให้โทษด้วยวิธี ต่าง ๆ เช่น ปวดท้อง ป่วยกระเสาะกระแสะ ต้องทําทิ้งบูชาตายายโนรา อาการก็จะหายป่วย 
๒. ความเชื่องเรื่องการถือเคล็ด
     โนราละมัยศิลป์ เชื่อว่าเคล็ดมือการกระทําอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เชื่อว่าเป็นวิธีปัดเป่า เช่น ผู้แสดงโนราที่ผ่านพิธีการครอบเทริดแล้วห้ามอาบน้ำแก้ผ้า ห้ามลอดใต้ราวแขนผู้อื่น ไม้ตีกลองห้ามเอามาเคาะเล่น เชื่อว่าคนในคณะโนราจะทะเลาะกัน
๓. ความเชื่อเรื่องพระภูมิเจ้าที่
     โนราคณะละมัยศิลป์ เชื่อว่าสถานที่ต่าง ๆ ย่อมมีเทวตารักษาคุ้มครอง เช่น ผีเรือน เจ้าที่นา เพราะฉะนั้นจะต้องบูชาเพื่อเป็นประโยชน์สุขของตน ไปแสดงที่ใดต้องมีการไหว้บูชาเจ้าที่ เพื่อไม่ให้ใครมากล้ํากรายจนกว่าคณะโนราจะแสดงแล้วเสร็จ

จุดเด่น/เอกลักษณ์

       อัตลักษณ์ที่โดดเด่นของโนราคณะละมัยศิลป์

๑. การแสดงโนราคณะละมัยศิลป์ เน้นการรําแบบโบราณแบบประยุกต์เข้ากับเหตุการณ์
๒. ท่ารําของคณะโนราละมัยศิลป์ คือมือที่รำจะไม่อ่อน มีลักษณะการทําเป็นท่าผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
๓. การว่ากลอนของคณะโนราละมัยศิลป์ มีความโดดเด่นที่สามารถใช้ปฏิภาณไหวพริบในการว่ากลอนโต้ตอบกัน ระหว่างผู้แสดงโดยมากนิยมใช้กลอนผูก จึงเป็นคํากลอนที่ไพเราะคมคาย สามารถสอดคล้องกับเหตุการณ์และสร้างความชอบใจให้กับคนดู

        องค์ประกอบการแสดง (ข้อมูลปี ๒๕๕๑)

๑. โรงโนรา
     โรงโนราหรือเวทีโนราคณะโนราละมัยศิลป์ เป็นเวทีสําเร็จรูป ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทิศใดก็ได้ ยกเว้นทิศตะวันตก ความกว้างประมาณ ๗ เมตร ความยาวประมาณ ๙ เมตร สูงจากพื้นประมาณ ๑ เมตร หลังคาทําเป็นรูปเพิงหมาแหงน แบ่งที่ออกเป็น ๒ ส่วน สําหรับการแสดง ๒ ส่วนสําหรับนักแสดงพักแต่งกายอีก ๑ ส่วน 
๒. ลักษณะการแสดงและเรื่องที่แสดง
     ลักษณะการแสดงของคณะโนราละมัยศิลป์ เป็นการแสดงโนราตามแบบโบราณและนํามาประยุกต์เข้ากับเหตุการณ์ มีขั้นตอนดังนี้
๑) ตั้งเครื่อง คือการประโคมดนตรีทําเพลงเชิดสั้น ๆ เพื่อประกาศให้ทราบว่าคณะโนราละมัยศิลป์ ได้เดินทางมาถึงโรงโนราแล้ว
๒) โหมโรง คือการประโคมดนตรีล้วน ๆ ก่อนเริ่มทําการแสดงเพื่อแสดงถึงความพร้อมของคณะโนรา และเรียกความสนใจจากผู้ชมให้มาชมการแสดงจุดเด่นของการแสดงคือโหมโรงด้วยเพลงพัดชาและเพลงเชิด
๓) กาศครู คือการร้องกลอนสรรเสริญครูโนราที่ล่วงลับไปแล้ว และอัญเชิญครูให้มาสถิตในโรงโนรา ช่วยให้ประสบความสําเร็จในการแสดงและคุ้มครองป้องกันอันตราย ขณะที่กาศครูก็จะให้พวกหัวจุกโนราหรือโนราที่ฝึกหัดใหม่ ๆ ออกมาแต่งตัวกลางโรงโนราด้านหลังที่เป็นที่พักนักแสดง
๔) ปล่อยตัวผู้รำ โดยเริ่มจากหัวจุกโนราเมื่อจบบทกาศครูจะใส่เล็บแล้วเริ่มรํา โดยการรําเป็นชุดสั้น ๆ บทครูสอนบทปฐม แล้วต่อด้วยผู้รำที่มีประสบการณ์และมีความชํานาญ เริ่มด้วยบทร่ายแตระ บทเพลงทับ เพลงโทน บทสีโตผันหน้า โดยการอวดลีลาท่ารําตามความถนัดและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน ตามระยะเวลาที่อํานวยให้ที่เรียกว่ารําประสมท่าเป็นอันจบกระบวนรำของผู้รำ
๕) ออกตัวนายโรงหรือโนราใหญ่ คือการรําของโนราละมัยศิลป์ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะ โดยการรําเหมือนผู้รำในชุดแรกแต่จะเน้นอวดลีลาจากการร้องหรือการว่าบทและรําพิเศษกว่าชุดอื่น เช่น การรําประสมท่า รําเพลงทับ เพลงโทน รําเพลงปี และการเล่นคําพรัดต่าง ๆ เช่น คําพรัดเกี่ยว คําพรัดชม คําพรัดบทจริง (คําพรัดหรือกําพรัดคือบทกลอนโนราที่มีลักษณะคําประพันธ์เป็นกลอนแปด กลอนสี่ กลอนหกและกลอนทอย ซึ่งได้แต่งไว้ก่อนมีเนื้อหาเฉพาะเรื่อง เฉพาะเหตุการณ์ การเล่นคําพรัดนี้มีความไพเราะ มีเนื้อหาชวนคิดและแทรกคติเตือนใจบางโอกาสต่อด้วยจับบทออกพราน ตามบทที่ใช้เล่นมาแต่โบราณ ได้แก่บทราหูจับจันทร์ บทรามสูร-เมขลา หรือเล่นนวนิยาย การเล่นโนราต้านภัยยาเสพติด เป็นต้น ให้ชมการแสดงในครั้งต่อไป หลังจากนั้นประโคมดนตรีจบลงด้วยเสียงกลอง “ตุง ตุง ตุง” ๓ ครั้ง ต่อจากนั้นโนราละมัยศิลป์ จะนั่งคุกเข่าถอดเทริด เมื่อถอดเทริดเรียบร้อยถือว่าการแสดงโนรา คณะละมัยศิลป์ในครั้งนี้จบลงโดยสมบูรณ์ การแสดงของโนราคณะโนราละมัยศิลป์ถือว่าเป็นโนราอาชีพ การแสดงใช้เวลาแสดงตั้งแต่เวลา ๑๙.๐๐ น.-๒๔.๓๐ น. เป็นการแสดงที่อวดความสามารถเฉพาะตัวของนายโรงและโนราทําบท 
๓. เครื่องแต่งกาย เครื่องแต่งกายโนราคณะโนราละมัยศิลป์ ประกอด้วย
๑) สนับเพลา เป็นกางเกงยาวทรงกระบอก ความยาว ถึงข้อเท้า กางเกงนิยมใส่สีขาว บริเวณเชิงกางเกงใช้ผ้าลูกไม้เย็บเป็นแถบทําให้เชิงกางเกงสวยงาม
๒) ผ้านุ่ง เป็นผ้ายาวสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือจะใช้ผ้าพื้นเป็นสีหรือผ้าลายไทย มีขนาด ๑๐๐x๒๗๐ เซนติเมตร นุ่งสวมทับสนับ เพลามีวิธีการนุ่งสําหรับการนุ่งผ้ารําโนรา โดยเฉพาะให้ส่วนของชาย ผ้าม้วนเป็นหางหงส์รั้งไว้ด้านหลังบริเวณสะโพก ในปัจจุบันเย็บสําเร็จรูปเพื่อความรวดเร็วและสะดวก
๓) วัดสะโพกเป็นแผงสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ความยาว ของฐานประมาณ ๒๑ เซนติเมตร ความกว้างจากฐานสู่ยอดประมาณ ๑๘ เซนติเมตร จํานวน ๑ ชิ้น ร้อยด้วยลูกปัดสีต่าง ๆ ผูกมัดบริเวณสะเอวด้านหลังตรงสะโพกให้ปลายแผงรัดสะโพกอยู่แนวกับหางหงส์
๔) ผ้าห้อยหน้า ห้อยข้างทําด้วยผ้าสีต่าง ๆ ขนาดเท่ากัน แต่ละชิ้นประมาณ ๑๐x๕๕ เซนติเมตร ปักลวดลายสวยงามทั้งหมด ๓ ชิ้น ผูกระดับเอวห้อยลงมาระดับเข่า อยู่ตําแหน่งหน้าผู้รํา ๑ ชิ้น ด้านข้างซ้าย ขวาอย่างละชิ้น
๕) ผ้าห้อย เป็นผ้าแพรสีต่าง ๆ ขนาดเท่ากัน ๒ ชิ้น และ ใช้สี ๒ สี พับซ้อนไปมาสามารถคลื่ออกได้ขนาดของรอยพับ ๖ เซนติเมตร ขนาดของผ้าห้อย ๔๕x๑๒๐ เซนติเมตร ผูกติดระหว่างผ้าห้อยหน้าและห้อยข้างด้านละ ๒ สี
๖) หางหงส์ ทําด้วยเขาควาย ผ่าแบ่งครึ่งให้บางยืด ประกอบติดกันบริเวณปลายเขา ซึ่งถูกตรึงด้วยฟูกลมทําด้วยไหมสีต่าง ๆ ปลายหางหงส์จะงอนโค้งคล้ายปีกนก ส่วนของหางแต่ละด้านจะร้อยด้วยลูกปัดสีต่าง ๆ เป็นระย้า ตลอดทั้งหางโดยหางหงส์จะนํามาผูกติดบริเวณสะเอวด้านหลังให้หางงอนเชิดขึ้น
๗) ปั้นเหน่งหรือเข็มขัดเป็นรูปวงรี ขนาดประมาณ ๙x๑๒ เซนติเมตร ทําด้วยเงินดุนลายอย่างดี
๘) รัดอกหรือพานโครง เป็นแผงสี่เหลี่ยมผืนผ้าร้อยด้วย ลูกปัดสีต่าง ๆ กว้างประมาณ ๑๓ เซนติเมตร ความยาว ๑ ช่วง อกของผู้รำ
๙) คลุมไหล่ เป็นแผงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ๒ ชิ้น ความกว้างของฐานไปสู่ยอดคลุมไหล่ประมาณ ๒๘ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๓๔ เซนติเมตร ร้อยด้วยลูกปัดสีต่าง ๆ ผูกเฉียงให้คลุมไหล่ซ้ายขวาเป็นตัวเสื้อและแขนเสื้อ
๑๐) ปิ้งคอ เป็นแผงสามเหลี่ยมจํานวน ๒ ชิ้น ขนาด ความยาวของฐานปิ้งคอ ๑๒ เซนติเมตร ความกว้างจากฐานสู่ยอดปิ้ง ๑๐ เซนติเมตร สวมปิดทับบริเวณคอด้านหน้า ๑ ชิ้น ด้านหลัง ๑ ชิ้น
๑๑) สังวาล เป็นสร้อยมี ๒ เส้น ความกว้างของสังวาลประมาณ ๓ เซนติเมตร ความยาวประมาณ ๑๒๐ เซนติเมตร ร้อยด้วยลูกปัดสีต่าง ๆ คล้องเฉียงผูกด้านหน้าจากบ่าทั้ง ๒ด้าน ผ่าลงมาบริเวณสะเอวด้านข้างตัดกันบริเวณหน้าอก ส่วนด้านหลังพาดเฉียงตัดกันระดับเดียวกับอก และจะมีแผ่นเงินรูปต่าง ๆ ขนาด ๕x๖ เซนติเมตรยึดตรึงไว้เรียกว่า จํายาม
๑๒) ปีกนกนางแอ่น เป็นแผ่นเงินคล้ายปีกนกขนาดเล็ก ๒ ปีก เชื่อมติดกันมีขนาด ๓x๑๒ เซนติเมตร ดุนลายเป็นเส้นสวยงาม แขวนผูกติดกับสังวาลทั้ง ๒ ข้าง ซึ่งห้อยลงมาด้านข้างระดับสะเอว
๑๓) ทับทรวง เป็นแผ่นเงินรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนขนาด ๖x๙ เซนติเมตร ดุนลายสวยงามผูกติดกับตัวสร้อยคอ ทําด้วยลูกปัดมีความกว้าง ๓ เซนติเมตร ยาว ๗๕ เซนติเมตร
๑๔) กําไลต้นแขน จํานวน ๒ วง ขนาดของกําไลมีความกว้าง ๒ เซนติเมตร ความยาวเส้นรอบวง ๒๑ เซนติเมตร ทําด้วยเงินดุนลายสวยงามสวมรัดบริเวณต้นแขน สามารถง้างออกได้ไม่เชื่อมติดกัน
๑๕) กําไลปลายแขน จํานวน ๒ วง ขนาดความกว้าง ๒๑ เซนติเมตร ความยาวเส้นรอบวง ๒๑ เซนติเมตร ทําด้วยเงินดุนลายสวมรัดบริเวณปลายแขนสามารถง้างออกได้ไม่เชื่อมติดกัน
๑๖) กําไลข้อมือ จํานวน ๑๕-๒๐ วง ขนาดกําไลขึ้นอยู่กับข้อมือผู้สวมใส่ นิยมทําด้วยทองเหลืองเชื่อมติดกัน เพราะเสียงของกําไลช่วยให้จังหวะการเคลื่อนไหว สะบัดข้อมือดังเร้าใจสอดรับกับเสียงดนตรี
๑๗) เทริด เครื่องสวมศีรษะคล้ายมงกุฎยอตเตี้ย ความสูงของเทริดจากฐานด้านหลังถึงยอดเทริดประมาณ ๔๖ เซนติเมตร เส้นรอบวงเพดานเทริด ๖๕ เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ๒๔ เซนติเมตร ตัวโครงเทริดสานด้วยไม้ไผ่ เพดานเทริดและใบหูแกะด้วยไม้ทองหลางเวลาสวมจะได้เบา ยอดเทริดใช้ไม้กลึงและแกะสลักเป็นลวดลายต่าง ๆ ติดกระหนกและกระจังลงรักปิดทองหรือติดกระจกสีเพื่อความสวยงาม
๑๘) เล็บ (เล็บมโนราห์สำหรับการฟ้อนรำ) จํานวน ๘ เล็บ เป็นรูปกรวยขนาดเล็ก ความยาว ๔ เซนติเมตร ทําด้วยเงิน ส่วนของปลายเล็บจะยาวออกไปด้วยหวายโค้ง ประมาณ ๑๔ เซนติเมตร ร้อยด้วยลูกปัดสี ต่าง ๆ สวมกับนิ้วทั้งแปดนิ้วยกเว้นนิ้วหัวแม่มือ
๔. เครื่องดนตรี
     เครื่องดนตรีในการแสดงโนราของคณะโนราละมัยศิลป์ ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องตีให้จังหวะ ประกอบ
๑) กลอง มีลักษณะเหมือนกลองทัดขนาดเล็ก นิยมทําด้วยแก่นไม้ขนุนและใช้หนังวัวหรือหนังควายหนุ่มหุ้มตัวกลองด้วยมุดไม้ ตอกยึดไว้ให้ตึงมีขาตั้ง ๒ ขา มีไม้ตี ๑ คู่ เป็นเครื่องดนตรีที่เน้นจังหวะเสียงทับ
๒) ทับ ทําหน้าที่ควบคุมจังหวะและเป็นตัวนําในการเปลี่ยนจังหวะทําให้สอดคล้องกับลีลาของผู้รำ หนังที่หุ้มทับนิยมใช้หนังค่าง หนังแมว ทับโนราจะเป็นทับคู่ มีเสียงต่างกันใบหนึ่งมีเสียงทุ้มเรียกว่าลูกเทิง อีกใบหนึ่งมีเสียงแหลมเรียกว่าลูกฉับ
๓) โหม่งหรือฆ้องคู่ โหม่งจะมีเสียงต่างกันคือเสียงแหลมและเสียงทุ้ม โหม่งมีความสําคัญในการสร้างเสียงให้ไพเราะพร้อมกับให้จังหวะ
๔) ฉิ่ง เป็นเครื่องดนตรีเสริมแต่งและเน้นจังหวะ ทําจากทองเหลือง
๕) ปี่ นิยมใช้ปีปีใน ปี่เป็นเครื่องเป่าชิ้นเดียวชิ้นสำคัญของโนรา เพราะปี่มีความสําคัญในการดําเนินทํานองทําให้ผู้ชมเกิดความรู้สึก เคลิบเคลิ้ม ปี่ทําด้วยไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สาวคํา ไม้หลุมพอ หรือแก่นไม้บางชนิด เช่น ไม้มะปริง ไม้มะม่วง ไม้กระถิน
๖) แตระพวง เป็นเครื่องดนตรีที่ให้จังหวะ ทําจากไม้เนื้อแข็งแล้วนํามาเจาะรูหัวท้าย ร้อยด้วยเชือกซ้อนกันที่แก่นกลางแตระร้อยด้วยโลหะหรือเหล็กแข็ง
๗) ซอ เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้สีคลอเคล้าให้ความไพเราะและช่วยเสริมจังหวะทํานอง
ผู้แสดงและนักดนตรี (ข้อมูลปี ๒๕๕๑)
      นักแสดงและนักดนตรีคณะโนราละมัยศิลป์ ประกอบด้วย
๑) โนราใหญ่ คือโนราละมัยเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและควบคุมบริหารดูแลกิจการของคณะโนราได้
๒) ผู้รำ คือนักแสดงคนอื่น ๆ ที่มีหน้าที่ออกไปรํามีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ประกอบด้วยผู้ที่เป็นผู้หญิง ๘ คน ผู้ที่ทําด้วยและทําบทด้วยเป็นผู้หญิง ๓ คน ผู้ชาย ๓ คน
๓) พราน คือผู้แสดงเป็นตัวตลกและแสดงบทสําคัญอื่น ๆ โดยเฉพาะการเล่นจับบท มี ๑ คน
๔) นักดนตรีหรือลูกคู่ ซึ่งทางภาคใต้เรียกว่าคนตีเครื่องทําหน้าที่บรรเลงดนตรี ประกอบด้วย คนตีทับ ๑ คน ตีโหม่งและฉิ่ง ๑ คน ตีแตระ ๑ คน ตีกลอง ๑ คน เป่าปี่ ๑ คน สีซอ ๑ คน

       ขนบนิยมในการแสดงโนรา
              
ขนบนิยมในการแสดงโนราของคณะโนราละมัยศิลป์ มีหลายอย่างและยึดปฏิบัติเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมา เพื่อความเป็นสิริมงคลในคณะประกอบด้วย

๑. ตั้งเครื่อง
     เมื่อคณะโนราทุกคนเข้าในโรงโนรา ก่อนทํากิจกรรมอื่น ๆ ลูกคู่จะบรรเลงดนตรี ๑ เพลง เพื่อบอกกล่าวครูหมอโนราให้ทราบจึงจะเสร็จพิธีตั้งเครื่อง
๒. พิธีเบิกโรง
     เป็นพิธีการขอที่ตั้งโนราและขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย เทวดา พระแม่ธรณี ครูโนรา มาช่วยคุ้มกันรักษาและดลบันดาล ให้ผู้ชมเกิดความรัก ความนิยมชมชอบ เริ่มด้วยการทําพิธีเบิกโรงนํา ภาชนะที่ใส่เครื่องเบิกโรง (เครื่องกํานล) ประกอบด้วยหมาก พลู ๓ คํา เทียน ๓ เล่ม ดอกไม้ ๓ ดอก กําไล ๓ วง เล็บโนรา ๓ อัน และเงินจํานวนตามที่โนรากําหนดออกมานั่งกลางโรง โดยหันหน้าไปทางหน้าโรงและนําเครื่องดนตรีประกอบด้วยกลอง ๑ ใบ ทับ ๒ ใบ โหม่ง และนิ่งวางเรียงตามลําดับจากซ้ายไปขวา โดยหันหน้ากลองและหน้าทับไปทางหน้าโรง จากนั้นผู้ทําพิธีลงอักขระที่เครื่องดนตรีแล้วพับ ใบพลูครึ่งหนึ่งม้วนเป็นรูปกรวยเอาหมากใส่ในกรวยเรียกว่าจุกอก นําหมากคําที่ ๑ วางบนทับใบที่ ๑ พร้อมปักเทียน ๑ เล่มและวางกําไล ๑ วง เล็บโนรา ๑ อัน ดอกไม้ ๑ ดอก หมากคําที่ ๒ วางบนทับใบที่ ๒ พร้อมปักเทียน ๑ เล่ม และวางกําไล ๑ วง เล็บโนรา ๑ อัน ดอกไม้ ๑ ดอก หมากคําที่ ๓ วางบนกลองพร้อมปักเทียน ๑ เล่ม กําไล ๑ วง เล็บโนรา ๑ อัน ดอกไม้ ๑ ดอก จากนั้นก็ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วกล่าวคําบูชาพระรัตนตรัย กล่าวคําชุมนุมเทวดา กล่าวคําชมนุมครูจบแล้ว ทําพิธีซัดหมาก 
๓. ไหว้ครู
     คณะโนราละมัยศิลป์ มีการไหว้ครูก่อนการแสดง เพื่อเป็นการขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป และเป็นสิ่งสําคัญในการแสดงโดยมีเทริดหน้ากากพราน รูปภาพของครูโนราที่ล่วงลับไปแล้ว และเป็นที่เคารพของคณะโนราละมัยศิลป์ก่อนออกแสดงนักแสดงทุกคนต้องไหว้ครู
๔. โหมโรง
     การโหมโรงคือการบรรเลงก่อนการแสดง และเรียกร้องความสนใจจาก ผู้ชมให้มาชมการแสดง เพื่อแสดงความพร้อมของคณะโนราละมัย ศิลป์ ตลอดจนเตือนให้ผู้ชมทราบว่านาจะเริ่มแสดงแล้วดนตรีจะ บรรเลงเพลงอะไรก็ได้ โดยส่วนมากดนตรีจะเป็นการให้จังหวะของโนรา ส่วนปี่จะทําหน้าที่ทําเพลงจะเล่นเพลงอะไรก็ได้ เพียงแค่ให้เข้ากับจังหวะดนตรี การบรรเลงดนตรีโหมโรงจะเล่นกี่เพลงก็ได้ แล้วแต่เวลา เมื่อเห็นว่าผู้ชมมามากแล้วก็ถือเป็นการเสร็จการ โหมโรง เริ่มเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น.
๕. กาศครู
     การกาศครูคือการระลึกถึงครู โดยโนราละมัยได้ระลึกถึงครูที่ล่วงลับไป แล้ว และเชิญครูให้มาสถิตอยู่ในโรงโนรา เพื่อขอความคุ้มครองและ ช่วยในการแสดงโนราประสบผลสําเร็จ ซึ่งมีทํานองร่ายหน้าแตระและทํานองเพลงทับ เพลงโทน
๖. โนราขับบทหน้าม่าน
     โดยโนราละมัยร้องบทกลอนอยู่ในม่านไม่เห็นตัวแต่จะใช้ มือดันม่านตรงทางแยกออกมา เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจจากผู้ชม และเป็นสัญญาณว่าตัวนายโรงจะออกรำ

ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อ/สถานที่/เรื่อง
คณะโนราละมัยศิลป์
ที่อยู่
จังหวัด
สงขลา


วีดิทัศน์

บรรณานุกรม

บุปผาชาติ อุปถัมภ์นรากร. (2553). ศิลปะการแสดงโนรา : การอนุรักษ์ การพัฒนา และการสืบสาน. นนทบุรี : สัมปชัญญะ.
โนราละมัย ศรีรักษา. (2564). สืบค้นวันที่ 13 ม.ค. 64, จาก https://www.facebook.com/โนราละมัย-ศรีรักษา-156280067873074/photos/?ref=page_internal


รูปภาพ
 
      Font Size  
Back to Top
Khunying Long Athakravisunthorn Learning Resources Center
Prince of Songkhla University ©2018-2024