ภาพจาก : https://mgronline.com/south/detail/9580000021099
คณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง หัวหน้าคณะคือนายสมพงษ์ ชนะบาล เป็นบุตรของนายเพื่อม ชนะบาล และนางพ่อน ชนะบาล อยู่บ้านเลขที่ ๑๒๕ หมู่ที่ ๑๒ ตําบลท่าแค อําเภอเมือง จังหวัดพัทลุง โนราสมพงษ์สืบเชื้อสายการแสดงโนรามาจากโนราแปลกท่าแค ซึ่งในวัยเด็กอายุได้ ๕ ขวบได้ดูน้ารำโนราและมีแรงบันดาลใจทําให้เกิดความชอบ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ โนราสมพงษ์ได้เริ่มรําโนรา นอกจากนั้นผู้ที่ฝึกรําให้มีโนราเลื่อนบ้านเขาเจียก และโนราคล้ายโคกชะงาย และต่อมาครอบครัวก็ได้เริ่มทําธุรกิจการแสดงโนรา อายุได้ ๑๕ ปี เริ่มท่องคาถาอาคมและจําได้อย่างแม่นยํา ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ โนราแปลกท่าแคได้เสียชีวิตลง โนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ทําหน้าที่หัวหน้าคณะแทนและได้ทําพิธีตัดเหมรย หมายถึงผู้สืบทอดการแสดงโนราและทําหน้าที่เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมของโนราในคณะทั้งหมด ในการถ่ายทอดความรู้ที่จะเป็นผู้สืบสานของคณะโนราสมพงษ์ เริ่มแรกตั้งใจจะให้นายเกรียงเดช ปาณรงค์ ซึ่งเป็นลูกของพี่สาวขณะนั้นมีอายุ ๒๕ ปี กําลังศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา ปีที่ ๒ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรีเป็นผู้สืบสาน
ประสบการณ์เกี่ยวกับการแสดงโนราและเป็นผู้ควบคุมคณะของโนราสมพงษ์ ยึดการแสดงแบบโบราณ โนราสมพงษ์ มีปฏิภาณไหวพริบในการแสดง โดยเฉพาะการว่ากลอน โนราสมพงษ์น้อย มีความเก่งและมีความสามารถในการทําพิธีกรรมโนราโรงครูเป็นอย่างมาก จะด้วยเหตุเนื่องมาจากโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง มีบ้านที่พักอาศัยเป็นคนพื้นที่ในตําบลท่าแค และที่นี้มีโรงครูขุนศรีศรัทธา ซึ่งเรียกว่าโรงครูขุนทาเพราะเชื่อว่าวัดท่าแคเป็นที่อยู่ของขุนศรีศรัทธา และครูโนราคนอื่น ๆ โดยนิยมทําพิธีกรรมโรงครูเพื่อรําถวายครูโนรา ที่เคารพนับถือในช่วงเดือน ๖ ถึงเดือน ๘ คือเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม ในช่วงเดือนดังกล่าวจะมีคนมาจองรับประกอบพิธีกรรมโรงครูไว้ข้ามปีแทบจะไม่มีวันหยุด โนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง มีน้ำเสียงในการร้องกลอนได้อย่างดีเยี่ยม ทําให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เคยได้รับเชิญให้ไปร้องกลอนโนราและแต่งกลอนโนราในหัวข้อรณรงค์โรคเอดส์ รณรงค์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โลกร้อน เกี่ยวกับสุขภาพ การขับขี่พาหนะ ความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์ ให้กับสํานักงานสาธารณสุข จังหวัดพัทลุง และหน่วยงานราชการในจังหวัดพัทลุงที่ร้องขอ จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วภาคใต้
ต่อมาคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ยึดรูปแบบการแสดงแบบประยุกต์ได้ดําเนินการบริหารคณะจนประสบผลสําเร็จมีชื่อเสียงขึ้นมา โดยปรับเปลี่ยนการแสดงออกเป็น ๒ช่วง คือช่วงที่ ๑ แสดงโนราแบบโบราณ โดยโนราสมพงษ์เป็นผู้ดูแล ช่วงที่ ๒ เล่นดนตรีลูกทุ่งและเต้นหางเครื่องหรือแดนเซอร์ประกอบเพลงลูกทุ่ง ควบคุมและฝึกซ้อมโดยนางเพลินพิศ รักขุนส่อง ซึ่งเป็นหลานสาว หลังจากนั้นคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ก็มีมีชื่อเสียงขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่เดือนได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันมหกรรมชิงแชมป์มโนราภาคใต้ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙
โนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่งหรือนายสมพงษ์ ชนะบาล ตลอดบนเส้นทางงานศิลปินมโนารห์เกือบ ๕๐ ปี ที่สืบทอดศิลปะการแสดงจนนับครั้งไม่ถ้วน จนเป็นที่รู้จักกันดีในภาคใต้ ถือเป็นปูชนียบุคคลที่ควรค่าแก่การยกย่อง โนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว เมื่อวันที่ ๒๐ ก.พ. ๒๕๕๘ หลังป่วยมานานนับเดือน สิริอายุได้ ๖๐ ปี
ภาพจาก : https://www.facebook.com/มโนราห์สมพงษ์น้อยดาวรุ่ง-460379351367840/photos/?ref=page_internal
ความเชื่อในการแสดงโนรา
ความเชื่อในการแสดงโนราของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง มีดังนี้
๑. ความเชื่อเรื่องตายายโนรา โนราคณะสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เชื่อว่าตายายโนราคือครูต้นแบบของโนราและครูโนราที่ตายไปแล้ว บางครั้งเรียกว่าครูหมอตายาย โดยเชื่อว่าตายายโนรามีความผูกพันกับลูกหลานที่มีเชื้อสายโนรา หากลูกหลานที่มีเชื้อสายโนราไม่เคารพบูชาตายาย โนราอาจจะให้โทษด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ปวดท้อง ป่วยกระเสาะ กระแสะ ต้องทําทิ้งบูชาตายายโนราอาการจะหายเป็นปกติ |
๒. ความเชื่อเรื่องการเหยียบเสน โนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เชื่อว่าเสนไม่สามารถรักษาให้ หายได้ นอกจากให้โนราทําพิธีเหยียบเสนให้ในวันโนราเข้าโรงครู เสนเป็นเนื้อที่งอกที่ออกขึ้นมาจากระดับผิวหนังเป็นแผ่นสีแดงๆ โดยจะทํากันก่อนโนรารําคล้องหงส์ ซึ่งพ่อแม่จะต้องเตรียมเครื่องประกอบพิธีมาให้โนราใหญ่ได้แก่ ขันน้ำพลู หมาก ดอกไม้ ธูปเทียน หินลับมีด มีดโกน เครื่องทอง เงินเหรียญ เครื่องเงิน หญ้าเข็ดมอน หญ้าคา รวงข้าวและเงิน ๓๒ บาท โนราใหญ่จะเอาเป็นสิ่งของต่าง ๆ ที่เตรียมมาใส่ลงขันทําพิธีจุดธูปเทียนบูชาตายาย โนราลงอักขระที่หัวแม่เท้าของโนราใหญ่ แล้วท่าเฆี่ยนพรายโดยถือกริชแล้วเอาหัวแม่เท้าของโนราใหญ่ไปแตะตรงที่เป็นเสนแล้ว เอาหัวแม่เท้าไปจุ่มลงในขัน จากนั้นยกหัวแม่เท้าขึ้นรมควันแล้วใช้หัวแม่เท้าไปเหยียบเบา ๆ ตรงที่เป็นเสนโดยหันหลังให้ผู้ที่เป็นเสน ว่าคาถากํากับโดยโนราใหญ่ในร่างทรงก็จะเอากริชไปแตะตรง ที่เป็นเสนพร้อมกับว่าคาถาทําเช่นนี้ ๓ ครั้ง เสร็จแล้วเอามีดโกน หินลับ มีดและของอื่น ๆ ในขันน้ำไปแตะตัวผู้ที่เป็นเสนจนครบทุกอย่าง เป็นอันเสร็จพิธีการเหยียบเสน โนราคณะสมพงษ์น้อยเชื่อว่าเสนจะค่อย ๆ จางหายไปถ้าไม่หายก็จะมาทำซ้ำอีกให้ครบ ๓ ครั้ง เสนจะจางหายไปในที่สุด |
๓. ความเชื่อเรื่องพระภูมิเจ้าที่ โนราคณะสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เชื่อว่าสถานที่ต่าง ๆ ย่อมมีเทวดารักษา คุ้มครอง เช่น ผีเจ้าเรือน เจ้าที่นา เจ้าที่สวน เพราะฉะนั้นต้องบูชาเพื่อประโยชน์สุขของตน ไปแสดงที่ใดต้องมีการไหว้พระภูมิเจ้าที่ไม่ให้ใครมากล้ำกรายจนกว่าคณะโนราจะแสดงเสร็จ |
๔. ความเชื่อเรื่องเครื่องดนตรี โนราคณะสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เชื่อว่าเครื่องดนตรีโนราแต่ละชิ้นมีครูหมอตายายจะลบหลู่หรือข้ามกรายไม่ได้ เช่น ทับ ๒ ลูก เมื่อทําพิธีไหว้ครูเบิกโรงจะเอาเทียน ๓ เล่ม หมาก ๓ คํา มาทําพิธี โดยจุดเทียน ๓ เล่ม เล่มหนึ่งนําไปปักไว้ที่กลอง พร้อมหมาก ๑ คํา เมื่อตั้งนะโม ๓ จบ จะกล่าวคําเชิญเทวดาชุมนุมแล้วก็เอาหมากเหน็บไว้ที่โรงโนรา ๑ คํา เพื่อบูชาเทวดาวางไว้ใต้เสื่อปูโรง ๑ คํา เพื่อบูชานางธรณี อีก ๑ คํา ใช้ใส่ในทับแล้วตีทับรัว โดยคณะโนราสมพงษ์น้อยดาวรุ่งเชื่อว่าดนตรีที่ได้ขึ้นครูแล้วจะมีความไพเราะและมีความขลัง |
๕. ความเชื่อเรื่องการถือเคล็ด โนราคณะสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เชื่อว่าเคล็ดคือการกระทําอย่างใดอย่างหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นวิธีปัดเป่าหรือป้องกันเหตุร้ายที่จะมีมา โดยโนราสมพงษ์น้อยดาวรุ่งเชื่อในเรื่องเคล็ดการปลูกสร้างโรงโนรา จะไม่หันไปทางทิศตะวันตกโดยเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าจะทําให้โนราตกอับ |
๖. ความเชื่อเรื่องการแก้บน โนราคณะสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เชื่อว่าการบนและการแก้บน โดยให้ตายายโนรา ช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ เช่น บนให้หายจากอาการเจ็บป่วย บนให้สอบเข้าเรียนต่อได้ บนให้พ้นจากการคัดเลือกเกณฑ์ทหาร บนให้สามารถสอบเข้าทํางานได้ การบนจะบนเองด้วยวาจาหรือให้ในราบนให้ตามความเชื่อว่าโนราหรือครูหมอโนรา เป็นผู้มีญาณสามารถติดต่อกับตายายโนราได้ หากบนด้วยวาจาก็ต้องเตรียมธูปเทียน ดอกไม้ หมากพลู จัดใส่พานบูชา แล้วกล่าวออกชื่อครูหมอโนราหรือตายายโนราที่นับถือ กล่าวขอความช่วยเหลือในสิ่งที่ต้องการและต้องมีคําสัญญาว่าเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว และแก้บนด้วยอะไรซึ่งการบนกับตายายโนราหรือครูหมอโนราเรียกว่าเหมุรยปาก เพื่อเป็นเคล็ดว่าสัญญาที่เคยให้ไว้กับตายายโนราหรือครูหมอโนราขาดกันแล้ว |
อัตลักษณ์ที่มีความโดดเด่นของมโนราห์คณะสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง
๑. การแสดงของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง มีกระบวนการรําที่อ่อนช้อย และยึดการแสดงแบบโบราณ การแต่งกายโนราแต่งแบบเครื่องต้นชุดใหญ่และเครื่องต้นชุดเล็ก |
๒. การแสดงของคณะโนราสมพงษ์น้อยดาวรุ่ง เป็นการแสดงโนราแบบประยุกต์แบ่งการแสดงออกเป็น ๒ ช่วง คือช่วงที่ ๑ แสดงแบบโบราณ เป็นการแสดงชุดสั้น ๆ เช่น รําแม่บท บทครู สอนบทสอนรํา บทประถมให้ผู้แสดงออกมาแสดงพร้อมกัน และช่วงที่ ๒ เล่นดนตรีลูกทุ่งและเดินหางเครื่องหรือแดนเซอร์ประกอบเพลงลูกทุ่ง |
๓. มีนักร้องประจําวงมีแฟนคลับ มีสปอนส์เซอร์อัดเพลง นักร้องประจําวงจําหน่ายเป็นซีดี |
องค์ประกอบการแสดง (ข้อมูลปี ๒๕๕๑)
องค์ประกอบการแสดงคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ประกอบด้วย
๑. โรงโนราและฉาก ลักษณะของโรงโนราหรือเวทีโนราเป็นแบบสําเร็จรูปนี้ทําด้วยโครงเหล็กมีขนาด ๒๐ เมตร เป็นเวที ๒ ชั้น ด้านหลังมีตัวอักษรเป็นชื่อมโนราห์สมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ด้านซ้ายป้ายไวนิลเป็นรูปนักแสดงโนราแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายลูกปัด สวมเทริด ด้านขวาป้ายไวนิลเป็นรูปนักร้องนําของวง ได้แก่โชคดี ศรีธรรมราช ด้านหน้าเวทีชั้นล่างเป็นแผ่นผ้าชื่อสปอนด์เซอร์สนับสนุนโรงโนราหรือเวทีโนราคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่งใช้วิธีการเช่าสําหรับการแสดงแต่ละครั้ง |
||||||||
๒. ลักษณะการแสดงและเรื่องที่แสดง ลักษณะการแสดงของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่งแสดง โนราแบบประยุกต์ มีลําดับขั้นตอน ๒ ช่วง ได้แก่
|
ภาพจาก : https://www.facebook.com/มโนราห์สมพงษ์น้อยดาวรุ่ง-460379351367840/photos/?ref=page_internal
เครื่องแต่งกาย (ข้อมูลปี ๒๕๕๑)
เครื่องแต่งกายของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ประกอบด้วยเครื่องแต่งกายที่ใช้ในการแสดง ๒ ช่วงดังนี้
๑) เครื่องแต่งกายที่ใช้ประกอบการแสดงในช่วงที่ ๑ การแสดงโนราแบบโบราณ ได้แก่
๒) เครื่องแต่งกายที่ใช้ประกอบการแสดงในช่วงที่ ๒ เล่นวงดนตรีลูกทุ่งและมีหางเครื่องหรือแดนซ์เซอร์ประกอบเพลงลูกทุ่ง เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัตติกูล เกตุชู ซึ่งเป็นน้องชายของเพลินพิศ รักขุนส่อง ทําหน้าที่เป็นครูผู้ฝึกสอนหางเครื่อง โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการแสดงในแต่ละครั้ง รวมถึงการจัดหาชุดใหม่มาใช้ในการแสดงที่มุ่งสร้างความตระการตาและแปลกใหม่ยิ่งขึ้น การแต่งกายแต่งแบบสมัยใหม่ นุ่งสั้นฟิตเปรี้ยะ สวยงาม |
เครื่องดนตรี
เครื่องดนตรีของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่งประกอบด้วยเครื่องดนตรีที่ใช้สําหรับการแสดงช่วงที่ ๑ ใช้สําหรับการแสดงโนราแบบโบราณ และแสดงช่วงที่ ๒ ใช้สําหรับการเล่นดนตรีลูกทุ่ง ประกอบไปด้วยเครื่องดนตรีดังนี้
๑) เครื่องดนตรีสําหรับการแสดงช่วงที่ ๑ ใช้สําหรับการแสดงโนราแบบโบราณ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องตีให้จังหวะ ดังนี้
|
แสง สี เสียง (ข้อมูลปี ๒๕๕๑)
แสง สี เสียงของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นของตนเอง ประกอบด้วย
๑) ไฟสว่างเป็นสปอร์ตไลน์แขวนติดกับเสา อยู่ด้านข้างเวที |
๒) ไฟราง ทําจากหลอดนีออนสีต่าง ๆ อยู่ด้านหน้าของ เวทีตลอดหน้าเวทีจะมีไฟรางติดไว้ หันหน้าเข้าหาเวทีประกอบด้วยสีขาว สี เหลือง สีแดง สีเขียว สีม่วง ใช้เวลาแสดงดนตรีลูกทุ่งและมีหาง เครื่องหรือแดนซ์เซอร์เต้นประกอบเพลง |
๓) ไฟราว เป็นไฟประดับแขวนไว้ด้านข้าง มีกระบอกสีดําครอบไว้เพื่อให้แสงออกในทิศทางที่ต้องการ สีของหลอดจะมีสี แดง ม่วง เหลือง ฟ้า น้ำเงิน จะติดตั้งกับโครงเหล็กด้านข้างสูงจากพื้นประมาณ ๓-๔ เมตร |
๔) เสียง การแสดงของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เป็นการแสดงในเวทีกลางแจ้งเป็นที่โล่ง ต้องใช้เสียงดังมาก ๆ จึงต้องใช้เครื่องเสียงชุดใหญ่ ประกอบด้วยเครื่องเสียง 10,000 วัดต์ แอมพาว์เวอร์ มีชุดปรับเสียง ติดคอสโอเวอร์มีอีคิว มีคอมเพสเซอร์ มิกเซอร์ มีตู้ลําโพง ๒ ข้างแยกเป็นเสียงเบสและตู้เสียงกลางแหลม |
นักแสดง (ข้อมูลปี ๒๕๕๑)
นักแสดงโนราของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ใช้ผู้แสดงจํานวนมากมีสมาชิกประมาณ ๖๐-๗๐ คน แบ่งออกเป็นกลุ่มนักดนตรีพื้นบ้าน กลุ่มนักดนตรีสากล ผู้ควบคุมเสียงและขนย้ายสิ่งของประมาณ ๑๐-๒๐ คน ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด กลุ่มนักแสดง ประกอบด้วยผู้แสดงรําโนรา พราน นักร้องและหางเครื่อง ประมาณ ๓๐-๔๐ คน มีทั้งผู้หญิง ผู้ชายผสมกัน มีอายุตั้งแต่ ๑๕-๒๕ ปี ทุกคนสามารถรําโนราได้ มีความสามารถร้องเพลงและเต้นหางเครื่องประกอบดนตรีลูกทุ่งได้
การบริหารจัดการคณะ (ข้อมูลปี ๒๕๕๑)
การบริหารจัดการคณะโนรา มีหัวหน้าคณะและผู้จัดการคณะเป็นผู้บริหารจัดการคณะ การติดต่อรับงานการแสดง ควบคุมคณะ ติดต่อผู้แสดงและการ ตัดสินใจ การรับงานโดยมากจะติดต่อทางโทรศัพท์ ไม่มีการทําสัญญาว่าจ้างตกลงในเรื่องราคาการแสดง โดยมากจะไม่มีการวางมัดจําใช้ความไว้วางใจ อัตราค่าจ้างคณะโนราจะเป็นผู้กําหนดราคา ราคาต่ำสุด ตกคืนละ ๓๕,๐๐๐ บาท สูงสุดไม่เกิน ๗๐,๐๐๐ บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้-ไกล
ค่าตอบแทน (ข้อมูลปี ๒๕๕๑)
ค่าตอบแทนที่จัดสรรให้กับนักแสดง ดังนี้
๑) ผู้แสดงที่รำเป็นชุดสั้น ๆ และเต้นหางเครื่องหรือแดนซ์เซอร์ประกอบเพลง ได้ค่าตอบแทน ๓๐๐-๕๐๐ บาท/๑ คืน |
๒)ผู้แสดงที่เป็นโนรารับเชิญ ได้ค่าตอบแทน ๑,๐๐๐ บาท/๑ คืน |
๓) ผู้ที่แสดงที่จําเป็นชุดสั้น ๆ เต้นหางเครื่องและเป็นนักร้องลูกทุ่งด้วย ได้ค่าตอบแทน ๕๐๐-๖๐๐ บาท/๑ คืน |
๔) ผู้ที่เป็นนักร้อง ได้ค่าตอบแทน ๗๐๐ บาท/๑ คืน |
๕) นักดนตรีพื้นเมือง ได้ค่าตอบแทน ๔๐๐ บาท/๑ คืน |
๖) นักดนตรีมือปี่ ได้ค่าตอบแทน ๕๐๐ บาท/๑ คืน |
๗) นักดนตรีสากล ได้ค่าตอบแทน ๕๐๐-๗๐๐ บาท/๑ คืน |
ขนบธรรมเนียบนิยมในการแสดงโนรา
ขนบธรรมเนียมนิยมในการแสดงโนราของคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง ที่ยึดถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมา ประกอบด้วย
๑. การตั้งเครื่อง เมื่อคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง เดินทางไปถึงโรงโนราที่กําหนดไว้แล้ว ก่อนทํากิจกรรมอื่นนักแสดงโนราทุกคนจะเข้าโรง โนรา ลูกคู่บรรเลงเพลง ๑ เพลง ยกเว้นคนเป่าปี่เป็นอันเสร็จพิธีตั้งเครื่อง |
๒. โหมโรง ก่อนการแสดงคณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง จะบรรเลงดนตรีพื้นเมือง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ชมให้มาชมการแสดงและเป็นการเตือนว่าการแสดงโนราจะเริ่มทําการแสดงแล้ว |
๓. กาศครู คณะโนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง จะกาศครูเพื่อเป็นการระลึกถึงครูโนราที่ล่วงลับไปแล้ว และเชิญครูหมอโนราให้มาสถิตอยู่ที่โรงโนรา ช่วยให้ประสบผลสําเร็จและคุ้มครองป้องกันอันตราย โดยการร้องกลอนประกอบดนตรี ทํานองร่ายแตระ ทํานองหน้าแตระ ทํานองเพลงทับ เพลงโทน แล้วแต่เวลาจะเอื้ออํานวยให้ |
๔. ไหว้ครู ก่อนเริ่มการนักแสดงและหัวหน้าคณะจะไหว้ครูเพื่อระลึกถึงครูโนราและขอให้การแสดงประสบผลสําเร็จและเป็นที่ชื่นชอบของ ผู้ชม |
ภาพจาก : https://www.facebook.com/มโนราห์สมพงษ์น้อยดาวรุ่ง-460379351367840/photos/?ref=page_internal
บุปผาชาติ อุปถัมภ์นรากร. (2553). ศิลปะการแสดงโนรา : การอนุรักษ์ การพัฒนา และการสืบสาน. นนทบุรี : สัมปชัญญะ.
มโนราห์สมพงษ์น้อยดาวรุ่ง. (2564). สืบค้นวันที่ 12 ม.ค. 64, จาก https://www.facebook.com/มโนราห์สมพงษ์น้อยดาวรุ่ง-460379351367840/photos/?ref=page_internal