วัดเวียง
 
Back    10/04/2019, 11:04    374  

หมวดหมู่

สถานที่ทางศาสนา


ประวัติความเป็นมา
ภาพจาก http://www.runwaythailand.com/

         วัดเวียง เป็นวัดโบราณอีกวัดหนึ่งของชุมชนไชยา ตั้งอยู่บนสันทรายขนาดใหญ่เรียกว่าสันทรายไชยา บริเวณนี้เชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของเมือง มีวังที่ประทับของกษัตริย์สมัยศรีวิชัย โดยมีวัดเวียงเป็นวัดประจำเมือง ที่นี่มีโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น พระพุทธรูปปางนาคปรกสำริด ปางมารวิชัย และพระพุทธรูปศิลาทรายแดงสมัยอยุธยาและยังมีสิ่งก่อสร้างสำคัญ ๆ เช่น อุโบสถ วิหาร สร้างตั้งแต่สมัยพระอธิการลือ อดีตเจ้าอาวาส นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านให้ได้ศึกษากันอีกด้วย วัดเวียงเป็นวัดโบราณเก่าแก่มากที่สุดวัดหนึ่ง มีเนื้อที่ ๑๕ ไร่ ๓ งาน ๙๐ ตารางวา ตั้งอยู่บนสันทรายขนาดใหญ่ เรียกว่า “สันทรายไชยา” มีความยาวจากทิศเหนือไปทางทิศใต้ประมาณ ๔ กิโลเมตร กว้างประมาณ ๕๐๐ เมตร แนวสันทรายทางทิศเหนือ เป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านเวียง ถัดลงไปทางใต้เป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านวัดหลง บ้านวัดแก้ว และบ้านวัดนบ ไปจรดเขาน้ำร้อนอันเป็นภูเขาหินปูนขนาดเล็ก บริเวณที่ตั้งวัดเวียงเชื่อกันว่าน่าจะเป็นศูนย์กลางของเมืองหรือเป็นวังที่ประทับของกษัตริย์ศรีวิชัย โดยมีวัดเวียงเป็นวัดประจำเมือง มีพระพุทธรูปศิลาทรายแดง ๗ องค์ เป็นศิลปะช่างอยุธยา (แต่ปั้นโดยช่างสกุลไชยา) โดยระบุว่าในปี พ.ศ. ๑๗๒๖ กล่าวถึงกษัตริย์พระนามว่ากมรเตงอัญมหาราช มีพระบรมราชโองการให้มหาเสนาบดีคลาไนเจ้าเมืองครหิ สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมา


โบราณสถาน/โบราณวัตถุ

           ปัจจุบันโบราณสถานของวัดเวียง (ในส่วนของวัดเวียงที่มีภิกษุจำพรรษา) โบราณสถานวัดเวียงในปัจจุบันบางส่วนมีการก่อสร้างวิหารครอบทับตัวโบราณสถานเดิม ทำให้ไม่เห็นร่องรอยเดิมของโบราณสถาน แต่สามารถพบโบราณวัตถุทั่วไปตามพื้น เช่น ชิ้นส่วนทางสถาปัตยกรรม กรอบประตู เป็นต้น และภายในวัดมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไชยาจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านและโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่พบในวัดเวียง  โบราณสถานที่ได้บูรณะขื้นใหม่ประกอบด้วย
         
 อุโบสถ

        อุโบสถที่สร้างใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดบนสถานที่เดิม โดยเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๗ แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ มีขนาดกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๖ เมตร รูปแบบเป็นอาคารทรงไทย โครงสร้าง ค.ส.ล. ทั้งหลัง หลังคา ๓ ชั้น มุงด้วยกระเบื้องเคลือบ มีช่อฟ้าใบระกาและหางหงส์ ผนังก่ออิฐฉาบปูน พื้นหินขัดด้านหน้าและด้านหลัง มีกำแพงแก้วล้อมรอบอุโบสถ เขตพัทธสีมากว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร 

        วิหาร

        วิหารสร้างมาแต่เดิมโดยพระอธิการลือ อดีตเจ้าอาวาส แต่สร้างขึ้นเมื่อใดไม่มีหลักฐานปรากฏ เป็นอาคารไม้ยกพื้นสูงขนาดกว้าง ๑๕ เมตร ยาว ๑๘.๕ เมตร หลังคาลาดลง ๓ ชั้น แบบทรงไทยครึ่งปั้นหยาครึ่งมนิลา มีช่อฟ้าใบระกาและหางหงส์ หน้าบันไม้แกะสลักลวดลายไทยปิดทองและประดับกระจก ได้ทำการบูรณะซ่อมแซมบางส่วน เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ โดยเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาจากระเบื้องซีเมนซ์ เป็นกระเบื้องสีลอนเล็ก ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้บูรณะซ่อมแซมอีกครั้ง โดยก่อผนังติดตั้งบานประตูหน้าต่างถมพื้นให้สูงขึ้นและลาดพื้นซีเมนต์ใหม่ทั้งหลัง รวมทั้งทำบันไดทางด้านหน้า

         กุฏิอดีตเจ้าอาวาส

        กุฏิอดีตเจ้าอาวาสสร้างมาแต่ครั้งไหนไม่ปรากฏหลักฐาน มีขนาดกว้าง ๑๘ เมตร ยาว ๒๐ เมตร เป็นอาคารไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง รูปแบบเป็นทรงไทยปั้นหยา หลังคาลาดลง ๓ ชั้น ยกพื้นใต้ถุนสูง ลักษณะเสาเหมือนช้างยืนถ่างขา พื้นปูด้วยไม้เนื้อแข็ง ยกพื้นเป็นเกย ทั้งสองด้าน มีชานผ่ากลางตลอดทั้งหลัง ปัจจุบัน ปรับปรุงเป็นศูนย์บูรณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน 

         ศาลาการเปรียญ

          ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารสร้างใหม่ ชื่อ “ศาลากาญจนาภิเษก” สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ด้วยเงินบริจาคของพลเอกวิมล วงศ์วานิช อดีตผู้บัญชาการกองทัพบก และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคเงินสมทบ รูปแบบเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ เป็นอาคาร ค.ส.ล. ทั้งหลัง กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๕ เมตร ห


ปูชนียวัตถุ
ภาพจาก http://www.runwaythailand.com/
        พระพุทธรูปนาคปรก สำริด สูง ๑๖๐ เซนติเมตร อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ลักษณะทั่วไปคล้ายพระพุทธรูปนาคปรกในศิลปะขอม แต่มีลักษณะท้องถิ่นอยู่มาก พระพุทธรูปแสดงปางมารวิชัยซึ่งต่างกับพระพุทธรูปนาคปรกศิลปะขอมที่มักแสดง ปางสมาธิ พระวรกายผอม พระพักตร์สี่เหลี่ยม พระขนงโค้งติดต่อกัน พระเนตรเหลือบมองลงต่ำ พระโอษฐ์หนาอมยิ้ม เม็ดพระศกเป็นก้นหอยขนาดใหญ่ อุษณีษะทรงกลมเรียบมีใบโพธิ์อยู่ด้านหน้า ประทับบนฐานบัวประดับด้วยลายประจำยามทางด้านหน้าและด้านข้าง อยู่บนขนดนาค ๓ ชั้น นาคมีเจ็ดเศียร ที่ฐานพระพุทธรูปมีจารึกอักษรขอมภาษาเขมร กล่าวถึงกษัตริย์ทรงพระนามว่า กมรเตงอัญมหาราชศรีมาตไตรโลกยราชา เมาลิภูษนวรรมเทวะ มีพระบรมราชโองการให้มหาเสนาบดี ตลาไน เจ้าเมืองครหิ สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมา 

        พระพุทธรูปศิลาทรายแดง ศิลปะสมัยอยุธยา สกุลช่างไชยา เดิมอยู่บนวิหารมีทั้งหมด๗ องค์ ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา มี๕ ศิลาจารึก ห่างจากวัดเวียงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว ๔๐ เมตร บริเวณเดียวกับฐานรากศาลพระหมอ พบศิลาจารึก ๒ หลัก ได้แก่ ๒ ศิลาจารึกหลักที่ ๒๔เป็นศิลาแท่งใหญ่ ลักษณะเป็นรูปใบเสมา ทำจากหินชนวน จารึกอักษรขอม ภาษาสันสกฤต๒ ศิลาจารึกหลักที่ ๒๔ สลักบนหินชนวนรูปสี่เหลี่ยม สภาพชำรุด จารึกอักษร ๑ ด้าน มี ๑๕ บรรทัด จารึกอักษรขอม ภาษาบาลี กำหนดอายุจากรูปอักษรราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘


ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อ/สถานที่/เรื่อง
วัดเวียง
ที่อยู่
เลขที่ ๑๖ หมู่ที่ ๔ ตำบลตลาดไชยา อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จังหวัด
สุราษฎร์ธานี
ละติจูด
9.384961
ลองจิจูด
99.182585



วีดิทัศน์

บรรณานุกรม

วัดเวียง. ๒๕๖๒ . สืบค้นเมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๒. จาก http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/chaiya/index.php/th/

 


ข้อมูลเพิ่มเติม

 

 

 

 

 

 


รูปภาพ
 
      Font Size  
Back to Top
Khunying Long Athakravisunthorn Learning Resources Center
Prince of Songkhla University ©2018-2024