หมวดหมู่
จังหวัด
ภาพจาก : https://kyl.psu.th/bB43fzYmR
อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้างมีพื้นที่อยู่ในอำเภอนาทวีและอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีสภาพป่าและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจสวยงาม เช่น น้ำตก ทั้งยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ฐานที่มั่นและของการสู้รบกับโจรจีนคอมมิวนิสต์ ที่เป็นหลักฐานให้ศึกษาถึงประวัติศาสตร์ของการสู้รบอันยาวนานอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้างมีเนื้อที่ ๑๓๗,๘๐๐ ไร่ หรือ (๒๒๐ ตารางกิโลเมตร) ที่มาของชื่อ "เขาน้ำค้าง" เนื่องจากสภาพของเขาน้ำค้างซึ่งเป็นยอดเขาสูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ในอดีตที่เคยขึ้นไปบนยอดเขาจะเห็นหยดน้ำค้างเป็นเกล็ดอยู่ตามยอดหญ้าลักษณะเป็นใยแมงมุม แม้แต่ตอนเที่ยงวันก็มีน้ำค้างประปรายอยู่บนยอดหญ้า ซึ่งเป็นสภาพที่แปลกเป็นอย่างยิ่ง เขาน้ำค้างเป็นเสมือนเขตหวงห้ามมาเป็นระยะเวลากว่า ๔๓ ปี นับตั้งแต่สงครามมหาเอเชียบูรพาหรือสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นต้นมา อยู่ในความยึดครองของผู้ก่อการร้ายโจรจีนคอมมิวนิสต์ เป็นบริเวณที่มีพื้นที่ทุรกันดาร มีทิวเขาสลับซับซ้อน และเป็นฐานปฏิบัติการใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแถบนี้ แต่ในที่สุดจากการปฏิบัติการตามแผนยุทธการใต้ร่มเย็น ที่มีได้นำนโยบายการเมืองนำการทหาร โดยกองทัพภาคที่ ๔ และหน่วยผสมพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ ๔๓ (พตท. ๔๓) ได้นำนโยบายนี้เข้าปฏิบัติการ สามารถเข้ายึดค่ายปฏิบัติการนี้ได้สำเร็จเมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๒๓ ทำให้โจรจีนคอมมิวนิสต์สลายตัวไปในที่สุด
ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้างประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนเป็นแนวยาวไปตลอดจนถึงพรมแดนประเทศมาเลเซีย ประกอบด้วยยอดเขาที่สำคัญ คือควนสยา ควนเขาไหม้ โดยมียอดเขาน้ำค้างเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดประมาณ ๖๔๘ เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น คลองนาทวี คลองทับช้าง คลองทรายขาว เป็นต้น ดินจะมีลักษณะเป็นดินร่วน ดินเหนียว หรือดินเหนียวปนทราย ส่วนลักษณะหินเป็นพวกหินปูนและหินแกรนิตเป็นส่วนใหญ่
ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จึงทำให้ฝนตกชุก พื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง เป็นป่าผืนใหญ่ติดต่อกันและที่สำคัญตั้งอยู่ในเขตโซนร้อน ลักษณะลมฟ้าอากาศทั่วไปจึงเป็นแบบมรสุมเมืองร้อนและได้รับมรสุมทั้งปี โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จึงทำให้มีฝนตกชุกและมีลักษณะลมฟ้าอากาศคล้ายคลึงกันเกือบตลอดปี ซึ่งมีฤดูฝนอันยาวนานและฝนตกกระจายตลอดทั้งปี ฤดูฝนอยู่ในระหว่างเดือนพฤษภาคม–มกราคม และฤดูร้อน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
ภาพจาก : https://thaiza.com/travel/nationpark/91527/
ทรัพยากรป่าไม้
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่จะเป็นป่าดงดิบชื้น มีพันธุ์ไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นอุดมสมบูรณ์ ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้หลุมพอ ตะเคียน กะบากดำยาง จำปา สยาแดง ไข่เขียว เปรียง ขานาง แต้ม มังคะ พิกุลป่า มะม่วงป่า เป็นต้น และมีไม้พื้นล่างได้แก่ หมากชนิดต่างๆ หวาย ไผ่ ระกำ กล้วยไม้ เฟิร์น มอสส์ เป็นต้น
ทรัพยากรสัตว์ป่า
สัตว์ป่าที่พบเห็นได้แก่ หมูป่า หมี เก้ง เลียงผา ลิงหางสั้น ชะนี สมเสร็จ เสือดำ กระจง อีเห็น เต่า และนกนานาชนิด เช่น นกเงือก นกหว้า ไก่ฟ้า ไก่ป่า นกกระทาดงแข้งเขียว นกยูง นกขุนทอง นกกางเขน เป็นต้น
แหล่งท่องเที่ยว
| - น้ำตกโตนลาด มีลักษณะเป็นพื้นลาดระยะยาวสวยงาม มีน้ำไหลตลอดปี บนพื้นหินมีตะไคร่น้ำสีเขียวขึ้นอยู่ เต็มทั่วพื้นที่ เป็นน้ำตกที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวไปใช้บริการมากนักสภาพจึงยังคงเป็นธรรมชาติ อยู่ห่างจากหมู่บ้านนาปรัง ประมาณ ๕ กิโลเมตร |
| - น้ำตกโตนดาดฟ้า มีลักษณะเป็นน้ำตกสูงเหมือนดาดฟ้า มีหินยื่นเหมือนหลังคาสูงประมาณ ๒๐ เมตร น้ำไหลแรง สองข้างทางเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ มีบรรยากาศธรรมชาติที่ร่มรื่นสวยงาม ป่าที่อุดมสมบูรณ์ ตามทางเดินจะได้ยินเสียงนกและชะนีร้องอยู่เป็นระยะ |
| - วังหลวงพรม มีลักษณะเป็นน้ำตกเล็ก ๆ เตี้ย ๆ มีหินใหญ่อยู่ตรงกลาง ทำให้ลักษณะน้ำตกแยกเป็น ๒ สายเล็ก ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำหรือวังน้ำใหญ่และลึก เต็มไปด้วยสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลาจะมีขนาดใหญ่ ทั้งนี้เพราะยังไม่มีผู้ใดมารบกวน |
| - เมืองลูกหนึ่ง อยู่บริเวณใกล้ยอดเขาน้ำค้าง มีก้อนหินโต ลักษณะคล้ายกำแพงเมืองโบราณ ซากหินคล้ายมีเมืองใหญ่เมืองหนึ่ง |
| - น้ำตกโตนไม้ปีก สายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงโดยมีไม้ปักอยู่ตรงกลางจนเป็นที่มาของชื่อน้ำตก น้ำตกโตนไม้ปีก ตั้งอยู่กลางป่าลึก ต้องใช้เวลาเดิน ๑ วัน การเข้าไปท่องเที่ยวต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยในการนำทางก่อน สามารถติดต่อได้ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติได้ |
| - น้ำตกพรุชิง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ๔ กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยานฯ สายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูง การเดินทางสู่น้ำตกต้องไปตามเส้นทางเดินป่า โดยต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่ช่วยนำทาง |
| - ค่ายพักโจรจีนคอมมิวนิสต์ กรมที่ ๘ (อุโมงค์) อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง หรือหมู่บ้านปิยมิตร ๕ อยู่บริเวณเขาน้ำค้าง หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองกวาง ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ ๔ กิโลเมตร ถนนเป็นทางลาดยางเดินทางสะดวก สองข้างทางเป็นป่าที่ยังสมบูรณ์ เคยเป็นฐานที่มั่นหรือฐานปฏิบัติการใหญ่ที่สุดของโจรจีนคอมมิวนิสต์ในแถบนี้ มีลักษณะเป็นถ้ำหรืออุโมงค์ธรรมชาติที่ใหญ่ และมีความวิจิตรพิสดารของธรรมชาติ เป็นแหล่งสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์และเสบียงอาหารที่สำคัญ ทางทิศตะวันออกของอุโมงค์มีน้ำตกพรุชิงที่สวยงามด้วยด้านหน้าก่อนเดินเข้าไปชมภายในอุโมงค์จะมีนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมา ข้อมูล และภาพถ่ายให้ได้ชมกัน บริเวณอุโมงค์ในอดีตเป็นหมู่บ้านคอมมิวนิสต์ หลังจากการสู้รบกับฝ่ายรัฐบาลเกือบ ๔๐ ปี พรรคคอมมิวนิสต์ได้ประกาศยุติการสู้ เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐ อุโมงค์นี้เป็นอุโมงค์ดินเหนียวมีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย ขุดด้วยกำลังคนใช้เวลาประมาณ ๒ ปี ภายในแบ่งเป็น ๓ ช่องทางลึก ๓ ชั้น มีมีช่องทางเข้า-ออก ๑๖ ช่อง มีบันไดเชื่อมระหว่างชั้น ความยาวคดเคี้ยวขึ้นลงภายในอุโมงค์ยาว ๑ กิโลเมตร ภายในอุโมงค์แบ่งเป็นห้อง ๆ เช่น ห้องประชุม ห้องพยาบาล ห้องวิทยุ ห้องครัว สนามซ้อมยิงปืน เป็นต้น |
