“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาเยี่ยมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และขอแสดงความยินดีที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นมาเป็นผลสำเร็จ และมีนักศึกษาได้สำเร็จการศึกษามาแล้วแสดงว่าเป็นผลที่สมบูรณ์แล้ว การที่มหาวิทยาลัยได้ตั้งขึ้นมา ก็ต้องพิจารณาดูว่าต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่เป็นสำนักศึกษา สถานศึกษาใด ๆ เราก็ต้องมาคิดดูว่าต้องมีสถานที่คือ อาคาร ห้องเรียน เครื่องมือสำหรับสอนสำหรับเรียนก็มีอยู่แล้ว โดยได้ตั้งขึ้นมาถึงสองแห่งที่หาดใหญ่และที่ปัตตานี การสร้างก็นับว่าสร้างขึ้นมาใช้ได้แล้ว และเข้าใจว่าจะต้องสร้างต่อไปอีกเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการ…”
นี่เป็นส่วนหนึ่งของพระบรมราโชวาท ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๑๓ และ ๒๕๑๔ เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๑๕ ณ วิทยาเขตปัตตานี โดยในครั้งนั้น ศาสตราจารย์ ดร. บัวเรศ คำทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระองค์ท่าน และนั่นเป็นครั้งแรกที่เสด็จฯ สู่รั้วมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทรงเป็นมิ่งขวัญให้ชาวมทาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และประชาชนในละแวกใกล้เคียงได้ชื่นชมพระบารมี โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตร ณ วิทยาเขตปัตตานี และวิทยาเขตหาดใหญ่ จำนวนถึง ๑๖ ครั้ง จนถึงปีพุทธศักราช ๒๕๓๑
นอกจากเสด็จฯ มาพระราชทานปริญญาบัตรเพื่อเป็นศิริมงคลแก่บัณฑิตจากรั้วสงขลานครินทร์แล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังได้ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อมหาวิทยาลัย โดยพระราชทานพระนามของสมเด็จพระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์เป็นชื่อของมหาวิทยาลัย และได้เสด็จฯ มาทรงเปิดพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก ที่วิทยาเขตปัตตานี เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๒๑ และที่วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๒๘ ในวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๑๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์โรงพยาบาลของคณะแพทยศาสตร์ และได้โปรดเกล้าพระราชทานนามโรงพยาบาลว่า “โรงพยาบาลสงขลานครินทร์” และเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๒๙ ได้เสด็จฯ มาวิทยาเขตหาดใหญ่อีกครั้งหนึ่งเพื่อทรงเปิดและทอดพระเนตรการดำเนินงานของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ในวโรกาสดังกล่าวได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ด้วยเพื่อก่อสร้างอาคารเย็นศิระ ซึ่งเป็นอาคารที่พักผู้ป่วยในวัดโคกนาว ที่อยู่ตรงกันข้ามกับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
และเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๘ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรโรงงานสาธิตต้นแบบโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นการติดตามโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก อันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ทรงให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ไปดำเนินการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนต่ำ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสวนปาล์มรายย่อยของประเทศไทย ได้มีโอกาสรวมกลุ่มกันสร้างโรงงานเพื่อสกัดน้ำมันปาล์มดิบจำหน่าย และนำผลพลอยได้ต่าง ( เช่น ทะลายเปล่า กากเส้นใย และกะลา) มาใช้ประโยชน์ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัย ที่ได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทในการช่วยเหลือเกษตรกร การเสด็จพระราชดำเนินมายังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทุกครั้ง สร้างความปลาบปลื้มและประทับอยู่ในดวงใจของผู้ที่ได้มีโอกาสเฝ้า รับเสด็จ และต่างพร้อมที่จะน้อมนำพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสในด้านต่าง ๆ มายืดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
เรื่องและภาพจาก : สารศิษย์เก่า แพทย์ ม.อ. (Newsletter of the Alumni Association of PSU Medicine) ปีที่ 4 ฉบับที่ 4 เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2559