Page 127 - ธาดา ยิบอินซอย
P. 127
สังเกตว่าตัวเองคาดอุดมคติของนักศึกษา
(ส่วนใหญ่) ของเราในทิศทางที่ผิด คาดว่าเขารัก
ความเป็นหมอไม่รู้ว่าเขาต้องการ “สอบผ่าน”
เพื่อไปหากิน นักศึกษาจะไม่ถามเพื่อรู้หรือเข้าใจลึก
จะถามการรักษา การจำาแนกโรคเพื่อเอาไปสอบ
ยังไม่เข้�ใจเหมือนกันว่�ทำ�ไมเลือกทำ� cardiology หรือทำ�ไมเลือกไม่ทำ� psychiatry หรือ
neurology หรือทำ�ไมเลือกจะเป็นผ้เช่ยวช�ญใน 3 ส�ข�วิช�นี้เท่�นั้น รู้ว่�ต้องก�รอย่ใน
ู
ู
ี
ึ
่
ั
บรรย�ก�ศของ “วิช�ก�ร” ซ่งแปลว�ตัวเองต้องเป็นส่วนหน่งของโรงเรียนแพทย ช่วงน้นนิย�ม
ึ
์
่
ก�รเรียน (learning) ว่�สะสม (ซ่งแปลว�ยัดเยียด) ข้อมูลจ�กหนังสือ จ�กรุ่นพี่ จ�ก
ึ
ื
่
ี
ี
่
ื
ู
เจ้�น�ย และก็ร้ด้วยว�ไม่ส�ม�รถแยกข้อมูลท่มีคว�มน่�เช่อถือสูงออกจ�กท่มีคว�มน่�เช่อถือตำ�
ก�รสอนจะ center ที่ตัวเอง สอนแต่สิ่งที่คิดว่�เข� (คือ นักศึกษ�แพทย์ พย�บ�ล หรือแพทย์
รุ่นน้อง) ควรรู้ ไม่ใช่ที่เข�อย�กรู้ ชอบให้เข�ถ�ม แต่จะโกรธหรือดุถ้�เข�ซัก (คือ ซักคำ�
อธิบ�ย) คงเพร�ะผู้สอนไม่รู้จริง
ี
จ �กสหร�ชอ�ณ�จักรก็ได้รับไปฝึกทำ�ง�นต่อท่สหรัฐ คือ เข�รับไปทำ�ง�น ก่อนไปสหรัฐ
แวะเป็นแพทย์ที่โรงพย�บ�ลศิริร�ช 2 ปี รู้สึกภูมิใจที่ถูกยกย่องว่�เป็นหมอขยันรักษ� และ
ขยันสอน คร�วนี้ก�รสอนยิ่ง Teacher-centered ม�กขึ้น เพร�ะผู้เรียนกระตุ้นให้เป็นเช่นนั้น
คงเป็นนิสัยไทย ๆ
หลังจ�กทำ� cardiology ไปได้ 1 ปี ที่สหรัฐ รู้สึกเบื่อ คงเพร�ะไม่ถึงขั้นหรือเพร�ะไป
สนใจ basic science (ตึกสรีรอยู่ติดกับ cath-lab) เลยใช้เวล�อีก 6 ปี ศึกษ� “ก�รแลกเปลี่ยน
ส�รระหว่�งเลือดและเซลล์” ช่วงนี้เริ่มลงลึกในด้�นจุดเด่นจุดด้อยของตนเอง นี่เป็นสถ�ก�รณ์
ใหม่ที่ไม่เคยฝันถึง มันเหมือนกับถูกทิ้งบนเก�ะ แล้วถูกสั่งให้เจริญเติบโตโดยไม่มีคนม�ช่วย
นอกเหนือจ�กขอร้องให้ม�ช่วย 6 ปีนี้ก็สนุกม�กอีกเหมือนกัน ม�เริ่ม “เข้�ใจ” อีกมิติของก�ร
้
เรียนก�รสอน เมื่อพบว่� วิช�ที่อย�กให cardiologist (พวกน้มีชอเสียงส่วนม�ก) ไดไป
ื
้
ี
่
ผสมผส�นกับคว�มรู้ของเข� (คือ วิช� basic science in cardiology) จะถูกปฏิเสธเพร�ะ
“ย�กไป” ทำ�ไมจึงเป็นเช่นนั้น?
126
ครูแพทย์ผู้ประเสริฐ

