Page 41 - รายงานประจำปี ๒๕๕๘ ศูนย์องค์รวมเพื่อการศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์
P. 41

41



                                    ื
                    การพัฒนาเพ่อรักษามะเร็งผิวหนังเมลา
              โนมามีความก้าวหน้าอย่างมาก  ไม่ได้มีเพียงยา

              เคมีบำาบัดที่มีอัตราการตอบสนองต่อโรคต่ำา  แต่
                                               ี
              ปัจจุบันยังมีการรักษาด้วยยาท่ออกฤทธ์จำาเพาะ
                                                         ิ
              เจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง       และยาที่กระตุ้นการตอบ
              สนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อเซลล์มะเร็งอีกด้วย
              เป้าหมายการรักษามะเร็งผิวหนังเมลาโนมาในระยะ

              แพร่กระจาย  มุ่งหวังการควบคุมโรคให้ก้อนมะเร็ง
              ไม่โตและไม่ลุกลามมากขึ้น ช่วยบรรเทาอาการให้ผู้                         พญ. จิรวดี สถิตเรืองศักดิ์
              ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  และเพิ่มอัตราการรอด              อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยาบรรยายในหัวข้อ

              ชีวิตของผู้ป่วย                                            “วิทยาการก้าวหน้าในการรักษามะเร็งผิวหนังเมลาโนมาด้วยยา”

                    ยาเคมีบำาบัด มะเร็งผิวหนังเมลาโนมามีการตอบสนองต่อยาเคมีบำาบัดน้อย โดยมีอัตราการ
              ตอบสนองเพียงแค่ร้อยละ 5-10 และมีอัตราการรอดชีวิตในปีแรก เพียงร้อยละ 30-35 เท่านั้น โดย
              ยาเคมีบำาบัดที่มีใช้ ได้แก่ Dacarbazine, Temozolomide เป็นต้น อีกทั้งยาเคมีบำาบัดยังมีผลข้าง

              เคียงมาก ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บปาก เจ็บคอ ผมร่วง เพิ่ม
              ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากผลของการกดการทำางานของไขกระดูกอีกด้วย

                    การรักษาด้วยยาที่ออกฤทธิ์จำาเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง  เนื่องจากในปัจจุบันพบว่ามีการ
              กลายพันธ์ของรหัสพันธุกรรมที่สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา เช่น BRAF, NRAS,

              C-KIT  เป็นต้น  จึงมีการพัฒนายากลุ่มใหม่ที่ออกฤทธิ์จำาเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็งทำาให้ก้อน
              มะเร็งเมลาโนมาที่กระจายอยู่ในอวัยวะต่างๆของร่างกายเล็กลงได้  มีการบริหารจัดการยาง่ายขึ้น
              เนื่องจากเป็นยาชนิดรับประทาน  มีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเคมีบำาบัด  ทั้งนี้ผลข้างเคียงที่อาจเกิด
              ขึ้นได้ เช่น ปวดเมื่อยตามตัว มีผื่น ผมร่วง ผมสีเปลี่ยน ผิวหนังไวต่อแสงมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการ
              เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดสเควมัสเซลล์ เป็นต้น แต่การรักษาด้วยยาออกฤทธิ์จำาเพาะเจาะจงต่อเซลล์

              มะเร็งจะต้องส่งตรวจการกลายพันธุ์ของสารพันธุกรรมก่อนพิจารณาให้ยา

                    ยาที่กระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อเซลล์มะเร็ง  ปัจจุบันมีการพัฒนายากลุ่ม
              ใหม่อีกกลุ่มที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำางานของภูมิคุ้มกันร่างกายให้ทำาลายเซลล์มะเร็ง  เช่น  เพิ่ม

              การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่จุดตรวจสอบ  การใช้วัคซีนกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำาลาย
              เซลล์มะเร็ง  การใช้ไวรัสดัดแปลงเข้าไปทำาลายเซลล์มะเร็ง  หรือการดัดแปลงพันธุกรรมของเซลล์
              ภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ยาในกลุ่มนี้มีการตอบสนองประมาณร้อยละ 10 แต่ในผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังเมลา
              โนมาที่ตอบสนองกับการรักษานี้ มีโอกาสหายขาดได้ ทั้งนี้ผลข้างเคียงจากการรักษา ได้แก่ อวัยวะ

              ต่างๆ อักเสบ เช่น ลำาไส้อักเสบ ปอดอักเสบ หรือตับอักเสบ มีอาการอ่อนเพลีย ปวดข้อ เป็นต้น แต่
              การรักษาด้วยวิธีการนี้มีราคาสูงและปัจจุบันยานี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ในทุกประเทศ  รวมถึงใน
              ประเทศไทย
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46