Page 5 - พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พุทธศักราช 2559
P. 5
หน้า ๕
เล่ม ๑๓๓ ตอนที่ ๕๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๙
(๑๒) จัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นจัดตั้งองค์กรที่เป็นนิติบุคคล รวมตลอดถึงลงทุนหรือร่วมลงทุน
กับบุคคลหรือนิติบุคคลใด เพื่อดําเนินกิจการที่เกี่ยวกับหรือต่อเนื่องกับกิจการของมหาวิทยาลัย หรือนําผล
การค้นคว้าวิจัยไปเผยแพร่หรือหาประโยชน์เพื่อเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมลงทุน
กับนิติบุคคลที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าของโลกเพื่อนําเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้พัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ
มาตรา ๑๕ รายได้ของมหาวิทยาลัย มีดังต่อไปนี้
(๑) เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปี
(๒) เงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่มหาวิทยาลัย
(๓) เงินกองทุนที่รัฐบาลหรือมหาวิทยาลัยจัดตั้งขึ้น และรายได้หรือผลประโยชน์จากกองทุนดังกล่าว
(๔) ค่าธรรมเนียม ค่าบํารุง ค่าตอบแทน เบี้ยปรับ และค่าบริการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย
(๕) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้มาจากการลงทุนหรือการร่วมลงทุน และจากทรัพย์สินของ
มหาวิทยาลัย
(๖) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้มาจากการใช้ที่ราชพัสดุ หรือจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุ
ที่มหาวิทยาลัยปกครอง ดูแล ใช้ หรือจัดหาประโยชน์ รวมถึงที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย
(๗) รายได้หรือผลประโยชน์อย่างอื่น
เงินอุดหนุนทั่วไปตาม (๑) นั้น รัฐบาลพึงจัดสรรให้แก่มหาวิทยาลัยโดยตรงเป็นจํานวนที่เพียงพอ
สําหรับค่าใช้จ่ายที่จําเป็นในการดําเนินการตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยและการพัฒนามหาวิทยาลัย
รายได้ของมหาวิทยาลัยไม่เป็นรายได้ที่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ตามกฎหมายว่าด้วย
เงินคงคลัง กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายอื่น
ในกรณีที่รายได้ตามวรรคหนึ่งมีจํานวนไม่เพียงพอสําหรับค่าใช้จ่ายในการดําเนินการของมหาวิทยาลัย
และค่าภาระต่าง ๆ ที่เหมาะสม และมหาวิทยาลัยไม่สามารถหาเงินจากแหล่งอื่นได้ รัฐบาลพึงจัดสรร
เงินอุดหนุนทั่วไปเพิ่มเติมให้แก่มหาวิทยาลัยตามความจําเป็นของมหาวิทยาลัย
ในกรณีที่รัฐบาลได้ปรับเงินเดือน เงินประจําตําแหน่ง ค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่นใด
ให้แก่ข้าราชการ ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไปเพิ่มเติมให้แก่มหาวิทยาลัย
ในสัดส่วนเดียวกัน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่พนักงานมหาวิทยาลัยด้วย
มาตรา ๑๖ มหาวิทยาลัยต้องส่งเสริมและสนับสนุนผู้ซึ่งมหาวิทยาลัยรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย
และนักศึกษาซึ่งขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริงให้มีโอกาสเรียนจนสําเร็จปริญญาตรี
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาว่าผู้ใดขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริง ให้เป็นไปตามข้อบังคับ
ของมหาวิทยาลัย
มาตรา ๑๗ บรรดาอสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยได้มาโดยมีผู้อุทิศให้ หรือซื้อด้วยเงินรายได้
ของมหาวิทยาลัย หรือแลกเปลี่ยนกับทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย หรือได้มาโดยวิธีอื่น ไม่ถือเป็นที่ราชพัสดุ
และให้เป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย