Page 102 - เหนือเกล้าชาวสงขลานครินทร์
P. 102

ที่อาศัยอยู่ในประเทศเป็นสังคม สังคมนี้อยู่ร่วมกันเพื่ออะไร ก็เพื่อให้อยู่ได้สบาย มีความผาสุก

                         ความมั่นคง อนาคตแจ่มใส เพื่อการนี้ เราจะต้องใช้ความรู้ เพื่อที่จะทนุบ�ารุงความมั่นคงนี้
                         ทนุบ�ารุงและส่งเสริมให้ความเป็นอยู่ อยู่อย่างสบายขึ้นทุกที ให้อยู่สบายขึ้นนี้ก็ต้องมีหลายอย่าง
                         ประกอบกัน  สิ่งที่ส�าคัญที่สุดก็คือต้องเห็นอกเห็นใจกัน และเกื้อหนุนสนับสนุนซึ่งกันและกัน
                         ถ้าเกื้อหนุนสนับสนุนซึ่งกันและกันด้วยวิชาการก็ยิ่งดี ถ้าพูดถึงวิชาการ ในการอยู่เป็นสังคม
                         ก็เรียกว่า สังคมศาสตร์ ก็ต้องใช้วิชาการของสังคมศาสตร์มาท�าให้การอยู่ร่วมกันเป็นไปโดย

                         สวัสดิภาพ คือให้รู้ว่าคนเรามาอยู่เป็นสังคม จะต้องมีระเบียบการอย่างไร เมื่อพูดถึงเช่นนี้
                         ก็หมายความว่าต้องมีวิชาทางด้านนิติศาสตร์มาประกอบด้วย คือจะต้องมีระเบียบการ
                         มีกฎหมายมีระเบียบที่มั่นคง ถ้าพูดถึงระเบียบมีกฎหมายนั้น จะต้องรู้ทางด้านรัฐศาสตร์ คือ
                         การปกครอง ปกครองนี้มิใช่กดขี่ ปกครองคือให้ทุกคนมีการอยู่เป็น โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น โดย
                         ส่งเสริมผู้อื่น อันนี้ก็จะต้องมีการจัดระเบียบปกครองให้ดี เพื่อไม่ให้มีการเบียดเบียนกัน เพราะ
                         แต่ละคนถ้าลืมไปว่าอยู่ในสังคมก็อาจจะอยากมีเสรีภาพมาก แต่ละคนที่อยากมีเสรีภาพก็อาจ
                         จะนึกว่า นั่งที่ใดที่นั้นเป็นของตน และข้างเคียงของตนก็เป็นของตนเหมือนกัน ลืมไปว่ามีคนอื่น

                         อยู่ข้างๆ อย่างท่านทั้งหลายที่นั่งอยู่อย่างมีระเบียบเรียบร้อยนี้ ถ้าเกิดลืมขึ้นมา เกิดหลับหู
                         หลับตาแล้วก็นึกว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆ ก็เกิดบิดขี้เกียจเข้ามา บิดไปบิดมาก็ไปโดนคนอื่น คนอื่น
                         เขาก็เคืองเอา การเคืองของผู้อื่นนั้นอาจจะแสดงออกมาในรูปต่างๆ กัน อาจจะบอกอย่าเลย
                         อย่าท�าอย่างนี้เป็นการกวนกัน แต่ถ้าเกิดใจร้อนไม่ยั้งสติก็อาจจะทะเลาะกันเลย ก็ไม่เกิด
                         ประโยชน์แก่ผู้ใดเลย ท�าให้ทั้งหมดอลเวง และท�าให้ไม่มีความผาสุกมั่นคง ฉะนั้น การที่อยู่เป็น

                         สังคมก็จะต้องมีระเบียบ และมีความรู้ในเสรีภาพของตน นอกจากนี้ นอกจากระเบียบและความ
                         รู้ถึงเสรีภาพ ถึงขอบเขตของเสรีภาพ ซึ่งหมายความว่า แต่ละคนจะต้องมีความรู้ในธรรมะ คือ
                         ความรู้ว่าจะปฏิบัติตนอย่างไรถึงจะมีความเจริญ มีความดีมีความผาสุก เราก็ย่อมอยากอยู่ดีขึ้น
                         ตลอดไป การอยู่ดีขึ้นตลอดไปนั้น จะต้องมีวิชาการ  อย่างตอนนี้ เรานั่งอยู่ ยืนอยู่ในที่นี้ก็เคราะห์
                         ดีที่เวลานี้ฝนไม่ตก แต่ถ้าตกก็ยังไม่มีความเดือดร้อนเท่าไหร่ ไม่มีความล�าบากเท่าไหร่ เพราะ
                         ว่ามีเป็นหลังคาอยู่ ไม่เหมือนที่ปัตตานีเมื่อปีที่แล้ว ที่เดือดร้อนเพราะว่าการชุมนุมดังนี้ แบบนี้











            98
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107