กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต ม.อ. วันที่ 19 ก.ย. 67

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นวันที่สอง

วันที่ 19 กันยายน 2567 เวลา 12.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปยังศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ โล่เกียรติยศ แด่ ผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ อาจารย์ตัวอย่างดีเด่น และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2565-2566 เป็นวันที่สอง

โดยพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ แก่

นายภูรี เจริญพงศ์ ปริญญาบัญชีดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

พระราชทานโล่เกียรติยศแก่อาจารย์ตัวอย่างดีเด่น ประจำปี 2566-2567 และผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประจำปี 2567 แก่

รองศาสตราจารย์วิษณุพงษ์ โพธิพิรุฬห์ คณะวิทยาการจัดการ อาจารย์ตัวอย่างดีเด่นด้านการวิจัยและนวัตกรรม สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์จารุวรรณ กฤตย์ประชา คณะพยาบาลศาสตร์ อาจารย์ตัวอย่างดีเด่นด้านบริการวิชาการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี สถาบันสันติศึกษา อาจารย์ตัวอย่างดีเด่นด้านการวิจัยและนวัตกรรม สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ศาสตราจารย์วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ ผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประจำปี 2567
 นายปิยะ เทศแย้ม ผู้ได้รางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประจำปี 2567

และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาเอก โท และตรี คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาการจัดการ คณะนิติศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ คณะการแพทย์แผนไทย และคณะเศรษฐศาสตร์ รวม 2,257 คน ตามลำดับ

โอกาสนี้ได้พระราชทานพระโอวาท ความว่า ประเทศชาติจะมีความเจริญรุ่งเรืองได้ก็ด้วยมีความพร้อมของทรัพยากรในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นที่ต้องการของสังคมทั้งในระดับชาติและระดับโลก เพราะบุคคลที่มีคุณภาพ ย่อมสามารถเป็นทั้งกำลัง ทั้งผู้นำ ในการบริการจัดการ และปรับปรุงพัฒนาทรัพยากรอื่น ๆ ที่มีอยู่ ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุด และสอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปได้ โดยใช้ความรู้ทางวิชาการ วิจารณญาณอันเที่ยงตรง และคุณธรรมความถูกต้อง เป็นพื้นฐานในการปฎิบัติ บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ นับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ก็ได้เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการปฎิบัติภาระหน้าที่ดังกล่าวมาแล้วด้วยดี เป็นที่น่าภูมิใจ จึงขอให้บัณฑิตทุกคนตั้งใจพยายามพัฒนาตนเอง ให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ จะได้สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองและแก่โลก อันเป็นกิจที่หนึ่งที่คนเราพึงปฏิบัติ ดังพระราชปณิธานที่ทุกคนได้น้อมนำยืดถือ

ข้อมูลและภาพจาก : https://www.psu.ac.th/?page=news&news_code=1950

ช่วยแชร์ด้วยนะครับ
Back To Top