สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นวันที่สาม
วันที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 12.28 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปยังศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ โล่เกียรติยศ แด่ ผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ อาจารย์ตัวอย่างดีเด่น และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2565-2566 เป็นวันที่สาม
โดยพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ แก่
พระราชทานโล่เกียรติยศแก่อาจารย์ตัวอย่างดีเด่น ประจำปี 2566-2567 และผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประจำปี 2566 แก่
และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาเอก โท และตรี วิทยาลัยนานาชาติ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะนวัตกรรมการเกษตร ประมง และอาหาร คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม คณะวิทยาศาสตร์ คณะการบริการและการท่องเที่ยว คณะวิเทศศึกษา วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ และคณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รวม 2,208 คน ตามลำดับ
โอกาสนี้ได้พระราชทานพระโอวาท ความว่า ประเทศของเรายังต้องการบุคลากรจำนวนมาก ที่ถึงพร้อมด้วยความรู้ความสามารถ ความคิดวิจารณญาณ และคุณธรรมความสุจริต เพราะผู้มีคุณสมบัติอันพึงประสงค์ดังกล่าวนี้เท่านั้น จึงจะสามารถสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าและความผาสุกมั่นคง ให้แก่บ้านเมืองของตนและแก่โลกได้อย่างแท้จริง บัณฑิตไม่ว่าจะสำเร็จการศึกษาสาขาวิชาใดก็ตาม นับว่าเป็นผู้มีพื้นฐานที่ดีอยู่ เพราะได้รับการฝึกฝนอบรมทั้งในด้านความรู้ สติปัญญา และคุณธรรมความประพฤติมาพอสมควรแล้ว จึงเป็นที่คาดหวังของสังคม ว่าจะสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีคุณสมบัติพร้อม ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองต่อไปได้ หากทุกคนนำความคาดหวังนี้มาเป็นกำลังแรงใจ และถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างสำคัญ ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์จรรโลงสังคม และทำประโยชน์ให้แก่เพื่อนมนุษย์ สมดังประราชปณิธานที่แต่ละคนยึดมั่นประจำใจแล้ว ความสุขความเจริญที่แม้จริงและยั่งยืน ก็จะบังเกิดขึ้นทั้งแก่ตนเอง แก่ประเทศชาติ ตลอดถึงโลกของเรา
ข้อมูลและภาพจาก : https://www.psu.ac.th/?page=news&news_code=1951