สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์มาพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปีการศึกษา 2562 และพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ โล่เกียรติยศแก่ผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ผู้ได้รับเลือกเป็นอาจารย์ตัวอย่างของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาจารย์ดีเด่นของกองทุนเอกิ้น เลาเกเซ่นอนุสรณ์ ในระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2563 เวลา 16.00 น. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
ในพิธีพระราชทานปริญญาครั้งนี้ศาสตราจารย์นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา นายกสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กราบทูลรายงานกิจการมหาวิทยาลัย ซึ่งในปีการศึกษา 2562 เป็นปีที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ปฏิบัติภารกิจรับใช้สังคมและประเทศชาติ ครบรอบปีที่ 52 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จัดกระบวนการเรียนรู้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย และหลักสูตรที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ มีบูรณาการที่สอนร่วมกับหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีสาขาวิชาที่เปิดสอนทั้งสิ้น 331 สาขาวิชา ในปีการศึกษา 2562 มหาวิทยาลัยมีจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาจำนวน 8,586 คน โดยปีนี้สภามหาวิทยาลัยฯมีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พยาบาลศาสตร์ แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้ง “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 และโรคระบาดต่าง ๆ” ด้วยทรงห่วงใยและทรงตระหนักถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อน รวมทั้งถวายปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ทรงมีพระดำริให้จัดตั้ง “โรงพยาบาลจุฬาภรณ์” เพื่อให้บริการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง นอกจากนี้ยังทรงสนพระทัยด้านการระงับความรู้สึกขณะผ่าตัด โดยได้เสด็จทอดพระเนตรการปฏิบัติงานของวิสัญญีแพทย์ ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 จากนั้นได้พระราชทานโล่เกียรติยศแก่อาจารย์ตัวอย่างรุ่นใหม่ดีเด่น 1 คน คือรองศาสตราจารย์ นพ.วราห์ ยืนยงวิวัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ พระราชทานโล่เกียรติยศแก่ผู้ได้รับรางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ประจำปี 2563 จำนวน 1 ราย คือนายสุรเชษฐ์ ศรีกระจ่าง ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ผู้ร่วมดำเนินการและติดต่อประสานงานในการก่อสร้างอาคารเย็นศิระ 3 เพื่อเป็นที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ป่วยยากไร้และญาติที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งอยู่ห่างไกลโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก โท และตรี จากวิทยาเขตหาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี ปัตตานี และภูเก็ต รวม 2,099 คน โอกาสนี้ พระราชทานพระโอวาทความว่า “การสร้างความเจริญมั่นคงจะสำเร็จผลสมบูรณ์ได้ ก็ด้วยการที่แต่ละคนนำความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาไปใช้ในการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพการงานและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้บังเกิดผลที่ดีที่ถูกต้อง ทุกคนจึงต้องขวนขวายศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้ก้าวหน้าขึ้นอยู่เสมอ พร้อมทั้งนำความรู้ไปปฎบัติและใช้ให้ได้ผล โดยมุ่งประโยชน์ส่วนรวมอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของทุกคน สมดังพระราชปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่ว่า “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง””