Page 14 - ว่าวมลายู
P. 14
7
ุ
ปราบตีเมืองไม่ส าเร็จ ในครั้งที่ 2 แม่ทัพอยุธยาคิดอบายเผาเมือง อบายหนึ่งนั้นใช้หม้อดินบรรจุดินด า
ุ
ผูกสายป่านว่าวจุฬาล่ามชนรวมชักข้ามก าแพงเมืองเข้าไป แล้วจุดชนวนไหม้ไปถึงหม้อดินด าเกิด
ระเบิดตกไปไหม้บ้านเมือง ราษฎรระส่ าระสาย จึงเข้าตีเมืองได้ส าเร็จ จากประวัติศาสตร์ตอนนี้ปรากฏ
ชื่อว่าวจุฬาเป็นครั้งแรก
ในหนังสือลัทธิธรรมเนียมต่างๆ มีที่กล่าวถึงหน้าที่ของต ารวจสมัยกรุงศรีอยุธยา ในขณะที่
พระมหากษัตริย์เสด็จไปทรงว่าว ณ สวนกระต่าย (ปัจจุบันคือบริเวณหลังพระวิหารพระมงคลบพตร)
ิ
นอกจากมีหน้าที่ถวายอารักขาแล้วอยากเป็นผู้วิ่งรอกและคอยค้ าสายป่านว่าว ถ้าพานว่าวปักเป้าติด
เข้ามานั้น ได้เอาบัญชีกราบทูลพระกรุณาตามชื่อทุกครั้ง ว่าวที่ทรงคงเป็นว่าวจุฬา เพราะคอยคว้า
ว่าวปักเป้าอยู่ นับเป็นครั้งแรกที่ปรากฏชื่อว่าวปักเป้า
จากเอกสารสมัยกรุงศรีอยุธยา ว่าวนอกจากจะเล่นเพอความสนุกสนานแล้วยังมีความ
ื่
่
เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีในราชส านัก ดังในต าราพระราชพิธีเก่ากล่าวถึงไว้ดังนี้ “ให้ชีพอพราหมณ์เชิญ
พระอิศวร พระนารายณ์ มาตั้งยังที่ แล้วให้เจ้าพนักงานเรียนว่าวมาเตรียมไว้ในโรงราชพธี ครั้นได้ฤกษ์
ิ
ดีให้ประโคมปี่พาทย์ฆ้องไชย เชิญเสด็จออกทรงชักว่าว พราหมณ์เจ้าพนักงานเอาว่าวถวายให้ทรงชัก
ตามบุราณประเพณีและทรงพระเจริญแล และในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายมีการกล่าวถึงว่า ใน
เดือนอ้ายมีพระราชพิธีคลิม (ในเอกสารบางเล่มเรียกพระราชพิธีแคลง) คือพิธีชักว่าวเรียกลม
ครั้นถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ การเล่นว่าวยังคงเป็นการเล่นและกีฬาที่นิยมกันอยู่ ในต านาน
วังหน้าไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระพทธเลิศล้านภาลัยและสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์
ุ
พระอนุชาธิราช ทรงโปรดการทรงว่าวมาก ดังมีค ากล่าวคล้องจองกันว่า “วังหลวงทรงจุฬา วังหน้า
ทรงปักเป้า”การเล่นว่าวเป็นที่นิยมการแพร่หลาย โดยเฉพาะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสนับสนุนกีฬาเล่นว่าว มีการประกวดและแข่งขันว่าวจุฬาและปักเป้า โดยมี
กติกาการแข่งขันเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้การแข่งขันยุติธรรมและสนุกสนานยิ่งขึ้น
สถานที่เล่นว่าวในเขตกรุงเทพฯ ที่เป็นที่รู้จักกันดีมาแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน คือ
สนามหลวงส่วนในต่างจังหวัดก็นิยมเล่นกันตามที่โล่งกว้าง หรือตามท้องนาทั่วไป
ื่
ั
ปัจจุบัน สภาพในเมืองหลวงหรือตัวเมืองในจังหวัดอนๆ มีชุมชนแออดสิ่งก่อสร้างตึกรามและ
สายไฟต่างๆ เป็นสิ่งกีดขวางการเล่นว่าว หรือแข่งขันว่าวอยู่ในตัว จะหาสถานที่โล่งเป็นบริเวณกว้างที่
จะชุมนุมวิ่งว่าวนั้นหายากเด็กๆ จึงไม่ค่อยได้เล่นว่าวเหมือนดังแต่ก่อน ส่วนว่าวพนันนั้นก็หาตัวผู้คว้า
ว่าวที่ช านาญจริงๆ ยากเข้า และสภาพเศรษฐกิจท าให้คนต้องดิ้นรนท ามาหากิน ไม่มีจิตใจที่จะคิด
สนุกสนานไปชมการเล่นว่าวได้ดังแต่ก่อน จึงท าให้วงการกีฬาว่าวซบเซาไปทุกที เป็นที่น่ายินดีว่าในปี
พ. ศ. 2526 เมื่อวันที่ 3 เมษายน ได้มีหน่วยงานทั้งราชการและเอกชนร่วมมือกันฟนฟกีฬาว่าวขึ้น
ู
ื้
โดยจัดงาน “มหกรรมว่าวไทย” ณ บริเวณท้องสนามหลวง มีการประกวดว่าวชนิดต่างๆทั้งว่าวแผง
ว่าวประเภทสวยงาม ความคิดและตลกขบขัน โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
ได้เสด็จฯ เป็นองค์ประธาน ในงานนี้มีการแข่งขันว่าวจุฬาว่าวปักเป้าด้วย