Page 69 - เหนือเกล้าชาวสงขลานครินทร์
P. 69

ถ้าสมมุติว่าวิศวกรคนหนึ่งจะมาบอกว่าข้าพเจ้าเป็นวิศวกร และจะต้องค�านวณไม่นึกถึง

                         คนอื่น ข้าพเจ้าจะค�านวณก�าลังของวัสดุที่จะต้องใส่ในสะพานข้ามแม่น�้าแห่งหนึ่งก็ท�าได้ แต่
                         จะเกิดประโยชน์หรือไม่ก็ไม่ทราบ เพราะสมมุติว่าไปค�านวณในที่ที่ทางอื่นจะเป็นทางกรมกอง
                         ในราชการกรมทางหลวง หรือในทางปกครองว่าเขาไม่ต้องการสะพานเลยที่ตรงนั้น งานที่ท�า
                         นั้นก็เป็นหมันไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เลย ฉะนั้นจะต้องติดต่อจะต้องมีการประสานงานกับผู้อื่น
                         ว่าที่ใดมีความจ�าเป็นที่จะท�าสะพาน และสะพานขนาดใด บางทีวิศวกรก็จะบอกว่าเขาชอบที่

                         จะเขาอยากจะท�าสะพานใหญ่โตกว้างขวาง เพราะว่าที่เรียนมา วิชาที่เรียนสามารถจะสร้าง
                         สะพานข้ามแม่น�้าได้ถึง ๒ กิโลเมตร แต่ว่าถ้าที่ที่จะสร้างสะพานนั้นมันเพียง ๕๐๐ เมตร ก็
                         ไม่มีประโยชน์ใดๆ ที่ได้ค�านวณสะพาน ๒ กิโลเมตร ฉะนั้นก็ต้องติดต่อกับผู้อื่น ให้ดูถึงความ
                         จ�าเป็นและสถานที่ ที่จะต้องไปส�ารวจดูว่า ตลิ่งมีความแข็งแรงเท่าไหร่ จะต้องร่วมมือกับ
                         เจ้าหน้าที่ฝ่ายธรณีวิทยา จะต้องติดต่อกับฝ่ายผู้ที่สั่งงาน คือทางฝ่ายที่จะตั้งงบประมาณ ถ้า
                         สมมุติว่าสร้างค�านวณสิ่งที่จะเกินงบประมาณ ก็ไม่มีวันที่จะได้สร้าง และงานนั้นก็ใช้การไม่ได้
                         เหมือนกัน อันนี้เป็นการอธิบายว่าคนเราจะต้องติดต่อกับหน่วยงานอื่นกับคนอื่น ไม่ใช่เฉพาะ

                         ตนเองที่จะให้มาใช้การกับผู้ที่ก�าลังศึกษาในขั้นมหาวิทยาลัยหรือขั้นโรงเรียนหรือผู้อื่นนั้น

                               ขอให้คิดดูว่า แต่ละคนก็มีเพื่อนฝูง แต่ละคนก็มีหมู่คณะ ถ้าอยู่แต่ผู้เดียวหรือในกลุ่ม
                         เท่านั้นเอง จะท�าอะไรก็ไม่ได้ผลนัก นักเรียนหรือนักศึกษาถ้าบอกว่าตัวเองจะอยู่ในกลุ่มของตัว
                         จะท�าตามจิตใจของตัวเท่านั้นเอง ก็ไม่ได้เป็นนักเรียนหรือไม่ได้เป็นนักศึกษา เพราะว่าขึ้นชื่อว่า
                         เป็นนักเรียนหรือเป็นนักศึกษาย่อมต้องมีครูอาจารย์ ก็ต้องพยายามที่จะเข้าใจว่า ครูและอาจารย์
                         เขาก็เป็นคนที่มีวิชาและจะพยายามที่จะปรองดองร่วมมือร่วมแรงกันเพื่อที่จะสร้างงานที่เป็น
                         ผลส�าเร็จ งานของนักเรียนนักศึกษาและครูอาจารย์นั้นก็คือการศึกษา การงานนั้นคือให้ความรู้

                         และรับความรู้ ฉะนั้นระหว่างครู อาจารย์ นักศึกษา และนักเรียนจึงต้องมีการร่วมมือร่วมแรงกัน
                         ไม่ใช่ว่าไม่ร่วมมือกันและแบ่งแยกกัน เพราะเหตุนี้จึงขอให้เข้าใจว่างานการก็ดี ความเป็นอยู่ก็ดี
                         การวางตัวหรือ นึกจะปฏิบัติอะไรก็ดี ต้องนึกถึงวิชาการเป็นเบื้องต้น และการร่วมมือเป็นข้อสอง












                                                                                                          65
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74