Page 9 - 2019-6
P. 9
จังหวะไหน จึงจะดีตอใจที่สุด?
่
ผู้เขียนบทความอธิบายว่า ต้องเลือกเพลงที่
ท่วงท�านองช้า ๆ สบาย ๆ และเป็นเสียงของธรรมชาติ
โดยจะมีคลื่นจังหวะที่ 72 บีท (beat) ต่อ 1 นาที
ไม่ดังมากจนเกินไป ซึ่งเท่ากับอัตราการเต้นของหัวใจ
มนุษย์ในภาวะปกติ และไม่ควรฟังเสียงดังเกิน 80
เดซิเบล ถ้าฟังก่อนเริ่มเรียน เริ่มท�างาน ช่วงพัก
จะท�าให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีสุขภาพ 72 beats
จิตดีขึ้น ช่วยลดความเครียดได้ นอกจากนี้แล้ว ยัง
แนะน�าวิธีการฟังเพลงตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ per minute
ถ้าต้องการช�าระล้างอารมณ์ด้วยเสียงเพลง
โดยการฟังเพลงใน 20 นาทีแรก และหลังจากนั้นให้
ฟังอย่างตั้งใจ โดยใส่หูฟัง นอนบนพื้นราบ และพุ่ง
ความสนใจไปที่เสียงเพลง พร้อมหลับตาลงตัดเรื่อง
ขุ่นข้องหมองใจออกจากความคิด ขณะที่เพลงก�าลัง
บรรเลง มุ่งความสนใจไปที่ลมหายใจ ควบคุมการ
หายใจ ให้ลึก ช้า และสม�่าเสมอ และให้จิตใจจดจ่อ
กับเสียงเพลงจนเกิดสมาธิ
ถ้าต้องการกระตุ้นให้เกิดความคึกคัก ในขณะ
ท�างานควรเลือกฟังเพลงเร็ว
ถ้าต้องการเสริมสร้างความคิดการฟังเพลง
ส�าหรับเด็ก เพลงย้อนยุค ช่วยให้เกิดความสงบได้ นอกจากดนตรีจะช่วยในเรื่องของการ
เพราะเป็นท่วงท�านองช้า บ�าบัดใจแล้ว ดนตรีก็ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
เมื่อเครียดมาก และไม่สามารถอยู่นิ่งได้ ให้ ในการท�างาน ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
เดินออกก�าลังกาย พร้อมฟังเพลงที่ชอบนานประมาณ คลายความเครียด ลดความอ้วนด้วยดนตรีจังหวะ
30 นาที นุ่มนวล กระตุ้นแรงบันดาลใจด้วยเพลงมีจังหวะ
เมื่อความเครียดบรรเทาไประยะหนึ่ง ให้ตั้งใจ ช่วยให้การสูบฉีดเลือดคล่องตัวขึ้น และยังชะลอ
ฟังเสียงธรรมชาติรอบตัว 15-20 นาที ความเครียด อารมณ์หงุดหงิดของคนขับรถได้อีกด้วยค่ะ ลองไปฟัง
จะลดลง กันดูนะคะ
เอกสารอ้างอิง
อาภาวรรณ โสภณธรรมรักษ์. (2561). งานวิจัยนานาชาติ เผย ‘ดนตรีบ�าบัดใจ’ ต้องที่จังหวะ 72 บีท ต่อนาที ถึงจะดีต่อใจ.
สืบค้นจาก https://www.salika.co/2018/12/02/music-rhythm-therapy-research/
9 | L I B R A R Y 2 U