Page 4 - 2019-6
P. 4
ในที่นี้ ขอแนะน�าวิธีการเรียนรู้เพื่อการเรียนรู้ที่
ดีกว่า 4 วิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 คือ การทบทวน วิธีการนี้ จะว่า
ไปแล้ว เป็นการทวนความเข้าใจ หรือทวนความจ�า
นั่นเอง ในแต่ละวัน ควรจะจัดเวลาสัก 30 นาทีส�าหรับ
การทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนั้น ๆ และถ้าให้ดีควร
จะจดบันทึกย่อ ๆ เก็บไว้ หรือเขียนเล่าให้เพื่อนฝูงได้
อ่านก็ได้
วิธีที่ 2 คือ หยุดการครุ่นคิด หรือเปลี่ยน
บรรยากาศให้สมองได้พักผ่อนบ้าง บางครั้งเราจะ
พบว่า เราจะได้ค�าตอบในขณะที่ก�าลังท�าในสิ่งที่ไม่
เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ต้องการค�าตอบ เช่น คิดได้ขณะ
ก�าลังอาบน�้า หรือหลังจากได้นอนหลับพักผ่อน
อย่างเต็มที่แล้ว กล่าวกันว่า การได้นอนหลับอย่าง
เพียงพอช่วยให้สามารถลดเวลาในการฝึกฝน (เช่น
การจ�าค�าศัพท์) ลงถึง 50%
วิธีที่ 4 ใช้ความรู้ข้ามสาขาบ้าง หลายคน
วิธีที่ 3 คือ การสอน Richard Feynman ติดกับดักความคิดที่ว่า เราจะมีความเชี่ยวชาญก็
นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล ได้กล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า ต่อเมื่อเรามุ่งมั่นเพียงเรื่องเดียวหรือสาขาเดียว แต่
“If you can’t explain it in simple terms, then จากการศึกษาการเรียนรู้ของ ELon Musk ก็พบว่า
you don’t understand it.” การน�าสิ่งที่เราเรียนรู้ไป ปัจจุบันกฎข้อนี้ไม่เป็นจริงแต่อย่างใด เราจะได้ยิน
สอนคนอื่น ๆ เช่น เพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อนร่วมงาน ค�าว่า multidisplinary บ่อยขึ้น เพราะในโลก
เป็นการทดสอบความเข้าใจในสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปในตัว แห่งความเป็นจริง เราต้องเกี่ยวข้องกับหลายสิ่ง
ว่ากันว่าเราสามารถจดจ�าเนื้อหาที่เรียนรู้ด้วยการสอน หลายอย่างที่ประกอบขึ้นจากศาสตร์หลากหลายสาขา
ได้มากถึง 90% เมื่อเทียบกับการเรียนรู้ด้วยการอ่าน วิชา การมีความรู้ความเข้าใจในวงกว้างมีส่วนช่วยให้
เพียงอย่างเดียว เราจะได้เนื้อหาเพียง 10% เท่านั้น เกิดการเรียนรู้ที่ดีขึ้น
ในศตวรรษที่ 21 ที่ทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมากขึ้น การเรียนรู้ (ตลอดชีวิต) จึงเป็นทักษะ
ที่ต้องมี เพื่อให้เราสามารถน�าพาองค์กร และสังคมไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอให้ทุกท่านไม่หยุดเรียนรู้ และประสบความส�าเร็จในการเรียนรู้นะครับ
4 | L I B R A R Y 2 U