Page 5 - ผ้าทอแพรกหา
P. 5
Prak-ha fabric ๔
ยุครุ่งเรืองและก�รพัฒน�จ�กรัฐ
บ้�นแพรกห�ถือเป็นชุมชนแรกในจังหวัดพัทลุงที่ตั้งกลุ่มทอผ้�กี่กระตุกขึ้น หน่วยง�นร�ชก�รโดยเฉพ�ะ
กรมพัฒน�ชุมชนเข้�ม�ประส�นให้เป็นวิทย�กรไปสอนกลุ่มทอผ้�อื่นๆ จนเกิดกลุ่มทอผ้�ขึ้นม�กม�ยในตำ�บลใกล ้
เคียง เช่น บ้�นหน้�เก�ะ บ้�นสวนโหนด บ้�นควนขนุน บ้�นตำ�น�น นิคมสร้�งตนเองล�นข่อย และป�กพะยูน มี
ก�รนำ�สม�ชิกลุ่มไปดูง�นทอผ้�ที่ภ�คอีส�น จนกลุ่มมีสม�ชิกเพิ่มขึ้นถึง ๒๐๐ คน ซึ่งมีทั้งคนจ�กต่�งตำ�บลและ
ต่�งอำ�เภอ ซึ่งตอนหลังก็ได้แยกตัวออกไปก่อตั้งบริห�รจัดก�รกลุ่มของตนเอง เช่น กลุ่มทอนชมพู่ กลุ่มหน้�เก�ะ
กลุ่มปร�งหมู่ กลุ่มสหกรณ์พนมวังก์ ฯลฯ
จ�กก�รดำ�เนินง�นของกลุ่มฯ ทำ�ให้หมู่บ้�นแพรกห�ได้รับร�งวัลหมู่บ้�นพัฒน�ตัวอย่�ง ประธ�นกลุ่มคือ
น�งบุญเอื้อ สุภ�พรเหมินทร์ ได้รับก�รคัดเลือกเป็นคนไทยตัวอย่�งในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ทำ�ให้มีบุคคลและ คณะ
บุคคลเข้�เยี่ยมชมกิจก�รเป็นจำ�นวนม�ก ทำ�ให้กลุ่มทอผ้�ฯ เป็นที่รู้จักในสังคมวงกว้�งจนเรียกได้ว่�เป็นยุคทอง
ของผ้�ทอแพรกห�ทำ�ให้สินค้�ข�ยดีจนทอกันไม่ทันก็ว่�ได้
ยุคฟื้นฟูภูมิปัญญ�ก�รย้อมคร�มและสีธรรมช�ติทั่วไป ๒๕๔๙- ปัจจุบัน
พัฒน�ก�รกลุ่มทอผ้�แพรกห�ที่ผ่�นม�จะเห็นได้ว่�เป็นก�รพัฒน�ที่ไม่ได้เริ่มจ�กฐ�นภูมิปัญญ�ดั้งเดิม
ของชุมชนหรือของปู่ย่�ต�ย�ย มีเพียงแต่อ�ศัยองค์คว�มรู้และเรื่องร�วก�รทอแบบกระตุกจ�กแหล่งเรียนรู้
ภ�ยนอกและก�รใช้วัสดุประเภทเส้นใยสงเคร�ะห์จ�กโรงง�น ทำ�ให้ผลิตภัณฑ์ผ้�ทอที่ได้ออกม�ไม่มีเอกลักษณ์
หรือลักษณะที่เฉพ�ะตนที่ชัดเจน ทำ�ให้เกิดบรรย�ก�ศก�รทอผ้�เริ่มซบเซ�และข�ดพลังในก�รริเริ่มสร้�งสรรค์
ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เมื่อถึงยุคฟื้นฟูภูมิปัญญ�ก�รย้อมคร�มและสีธรรมช�ติทั่วไปทำ�ให้เกิดก�รกระตุ้นให้เริ่มก�ร
สืบส�นภูมิปัญญ�ดั้งเดิมของชุมชนเช่น ก�รย้อมสีจ�กคร�ม เป็นต้น ช่�งทอผ้�ชุดก่อตั้งกลุ่มฯ มีใจรักและเกิด
จ�กแรงบันด�ลใจในก�รพัฒน�ศักยภ�พในตนเองและมีคว�มเพียรม�นะพย�ย�ม และคว�มท้�ท�ยในอันที่จะ
รื้อฟื้นหรือฟื้นฟูภูมิปัญญ�ของบรรพชนขึ้นม�ใหม่ ซึ่งเป็นก�รสร้�งท�งเลือกใหม่ให้กับกลุ่มทอผ้�บ้�นแพรกห�
รวมถึงกลุ่มผู้บริโภค ตลอดถึงตั้งคว�มหวังในก�รฟื้นฟูคว�มเข้มแข็งเรื่องของผ้�ทอพื้นบ้�นที่เป็นเอกลักษณ์
ของกลุ่มขึ้นม�ใหม่
สำ�นักทรัพย�กรก�รเรียนรู้คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร