Page 18 - รายงานประจำปี ๒๕๕๔ มูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
P. 18

โครงการกลุ่มศรีตรังจิตสัมพันธ์ (Day Hospital) (โดยภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มอ.)
                              การรักษาโรคทางจิตเวชมีอุปสรรคสำคัญคือ ผู้ป่วยไม่ยอมรับว่าตนเองป่วย จึงปฏิเสธการรักษา

                         ปฏิเสธการกินยา หรือหยุดยา หรือลดยาเองเมื่ออาการเริ่มดีขึ้น และเมื่อเชิญชวนผู้ป่วยมาร่วมกิจกรรม
                         จิตวิทยาสังคมบำบัดเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว  ผู้ป่วยก็มักไม่มา ผลคือ ผู้ป่วยกลับเป็นซ้ำๆ ทำให้การ
                         พยากรณ์โรคแย่ลงและเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ จนอาจถึงขั้นดูแลตนเองไม่ได้และตัดขาดจากสังคมในที่สุด
                         ดังนั้นการบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวชจึงต้องมีความต่อเนื่อง   คือเมื่อผู้ป่วยรับการรักษาที่โรงพยาบาลจน

                         อาการดีขึ้นและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้  เขาควรมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อบำบัดด้านจิตใจ สังคม  21
                         บำบัดรักษา มีทักษะในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง ควบคู่การฟื้นฟูพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ต่อยอด
                         ไปถึงทักษะที่จำเป็นในการทำงาน  จากการสังเกตพบว่าการที่ผู้ป่วยจิตเวชได้พบปะแลกเปลี่ยน

                         ประสบการณ์กับผู้ป่วยเก่าที่มีประสบการณ์เจ็บป่วยทางจิตเวชแต่อาการดี ไม่ป่วยซ้ำ กินยาต่อเนื่องและ
                         บางคนสามารถทำงานได้ รวมทั้งผู้ป่วยอื่นๆ ทั้งที่ป่วยด้วยโรคเดียวกันหรือต่างกัน ทำให้ผู้ป่วยเกิด
                         ความหวังและมีกำลังใจที่จะดูแลตนเอง รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า มั่นใจว่าตนมีความสามารถเป็นการเพิ่ม

                         ความแข็งแรงแก่จิตใจ มูลนิธิ รพ.มอ. ตระหนักถึงผลดีของกิจกรรมที่มีต่อผู้ป่วย  จึงได้สนับสนุน
                         โครงการนี้ขึ้นเพื่อเป็นชุมชนที่ให้ความเข้าใจ  ให้การยอมรับ  เสริมสัมพันธภาพที่ดี  ก่อให้เกิดความหวัง
                         และกำลังใจแก่ผู้ป่วยในการรักษาและฟื้นฟูสภาพ และเมื่อผู้ป่วยมีศักยภาพเพิ่มขึ้นก็จัดต่อยอดให้ได้

                         เรียนรู้ ฝึกทักษะพื้นฐานการทำงานจากวิทยากรภายนอกควบคู่ไปด้วยกัน  การดูแลที่ต่อเนื่องกันนี้จะ
                         เป็นการเพิ่มกำลัง (empowered) ให้ผู้ป่วยจิตเวชพึ่งพิงตนเองได้มากขึ้น                       รายงานประจำปี 2554 : มูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์


                              โครงการกลุ่มบำบัดสำหรับผู้ป่วยแอลกอฮอล์  “เพื่อนกัน วันสุข”   (โดยภาควิชาจิตเวชศาสตร์  มอ.)

                         Alcohol Dependence  เป็นโรคอันดับสองของโรคที่พบได้บ่อยในหอผู้ป่วยจิตเวช รพ.มอ. รองมาจาก
                         โรคอารมณ์สองขั้วและจิตเภท ผู้ป่วยแอลกอฮอล์ที่มาเข้ารับการรักษาส่วนใหญ่มีแรงจูงใจและมีความ
                         มุ่งมั่นที่ต้องการจะหยุดดื่ม แต่เมื่อได้จำหน่ายจากโรงพยาบาล ผู้ป่วยบางรายไม่สามารถควบคุมพฤติกรรม

                         การดื่มของตนเองต่อได้   เนื่องจากพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์มีปัจจัยทั้งผู้ป่วยเองและปัจจัยทางสังคม
                         ที่เกี่ยวข้องเป็นตัวเสริมที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมการดื่มจนต้องกลับมาเข้ารับการรักษาซ้ำ
                          การดูแลรักษาผู้ป่วยแอลกอฮอล์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย   ดังนั้นในการบำบัดรักษาจะต้องให้การดูแลแบบ

                         องค์รวมคือทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคมไปพร้อมๆ กัน โดยทีมสหวิชาชีพ ซึ่งภาควิชา
                         จิตเวชศาสตร์ รพ.มอ. ได้ทบทวนและพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องจนเป็น
                         รูปธรรมที่ชัดเจนและมีกลุ่มบำบัด สำหรับผู้ป่วยแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อ  “เพื่อนกันวันสุข”

                         ดำเนินการทุกวันศุกร์ เวลา 09.00-11.30 น. เน้นการบำบัดแบบ Solution Focus  ที่ให้ผู้ป่วยรับรู้สิ่งที่
                         เกิดขึ้นในขณะปัจจุบันวางแผนอนาคตและแนวทางที่จะไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ ผู้ป่วยสามารถ
                         ควบคุมพฤติกรรมการดื่มของตนเอง และได้รับแรงสนับสนุนทางสังคมที่เอื้อต่อการควบคุมพฤติกรรม
                         การดื่ม ตลอดจนสร้างเครือข่ายทางสังคม เพื่อการดูแลผู้ป่วยติดสุรา สามารถหยุดดื่มได้ต่อเนื่องเมื่อ

                         กลับไปดำเนินชีวิตประจำวันในชุมชนของตนเอง
                              สำหรับวันศุกร์สุดท้ายของแต่ละเดือนจะมีกิจกรรมพิเศษ  “สุข สังสรรค์”  ที่ตอบสนองความ

                         ต้องการของผู้ป่วย ด้วยการเพิ่มพูนองค์ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากแอลกอฮอล์ การเสริมทักษะ
                         ชีวิตโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาบรรยาย สนทนา ตอบข้อสงสัย รวมทั้งการเชิญชวนผู้ป่วยแลกเปลี่ยน
                         เรียนรู้นอกสถานที่ ผ่านประสบการณ์จริงและกระชับความสัมพันธ์ให้เกิดความเหนียวแน่น
                         ร่วมมือร่วมใจระหว่างผู้ป่วย
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23