Page 118 - รายงานประจําปี ๒๕๕๕ ผลการดําเนินงานด้านการวิจัยและบัณฑิตศึกษา
P. 118
13. โครงการ “วัฒนธรรมทางดนตรีชาวอูรักลา 14. โครงการ “การศกษาทรพยากรธรรมชาติ และ
ั
ึ
โวยในหมูเกาะบูโหลน จ.สตูล” พัฒนาเสนทางเดินศึกษาธรรมชาติบนเกาะบูโหลนเล
ี่
โครงการนี้มี วาทรอยตรีหญิง ดร.เรวดี อึ้งโพธิ์ คณะ และเกาะบูโหลนดอน อุทยานแหงชาติหมูเกาะเภตรา”
ศิลปศาสตร เปนหัวหนาโครงการ จากการสำรวจพบวา โครงการนี้มี นายยิ่งยศ ลาภวงศ คณะวิทยาศาสตร
ุ
ปจจบันเหลือการละเลนดนตรีพื้นบานอยูนอยมาก และนัก เปนหัวหนาโครงการ ไดทำการสำรวจพื้นที่ ซึ่งแบงการ
ดนตรีที่เลนเพลงพืนบานไดนั้นมีอยูเพียงคนเดียวอายุมาก สำรวจออกเปนดานพืช แมลง สัตวสะเทินน้ำสะเทินบกและ
้
แลว โดยยงไมมีการถายทอดไปยังนักดนตรีรุนหลัง ทางทีม สัตวเลื้อยคลาน สัตวปก และสัตวเลี้ยงลูกดวยนม และได
ั
ึ
วิจัยจงไดบันทึกเทปวิดีโอ เพื่อจัดทำเปนโนตเพลงแลว สำรวจและกำหนดเสนทางเดินธรรมชาติสำหรับนักทอง
ิ
ี่
ั้
ประมาณ 10 เพลง (รูปท 10.11) จากนนนักวจัยจะจัดโครง เที่ยวไดทั้งหมด 5 เสนทาง คือ ที่เกาะบูโหลนเล จำนวน 4
การถายทอดความรูใหแกเยาวชนบนเกาะ (เพลงลาฆูดูวอ เสนทาง และที่เกาะบูโหลนดอน จำนวน 1 เสนทาง (รูปที่
ลาฆมะอินัง และลาฆูมานะอิกัน ซึ่งเปนเพลงที่เปรียบ 10.12) จากการสำรวจพบ
ู
เสมือนเพลงไหวคร) เพื่อเปนการอนุรักษเพลงพื้นบาน 1. พืช พบทั้งหมด 324 ชนิด พบที่บูโหลนเล 288
ู
อยางยั่งยืนตอไป ชนิด และพบที่บูโหลนดอน 170 ชนิด
2. แมลง พบทั้งหมด 30 ชนิด (อยูในระหวางจัด
จำแนกอีกจำนวนหนึ่ง) พบที่บูโหลนเล 22 ชนิด และพบที่
บูโหลนดอน 9 ชนิด
3. สัตวสะเทินน้ำสะเทินบกและสัตวเลื้อยคลาน
พบทั้งหมด 18 ชนิด พบที่บูโหลนเล 18 ชนิด และพบที่
บูโหลนดอน 4 ชนิด
ิ
ี่
4. สัตวปก พบทั้งหมด 31 ชนด โดยพบทบูโหลนเล รูปที่ 10.12 เสนทางเดินธรรมชาติบนเกาะบูโหลนเล และบนเกาะบูโหลนดอน จ.สตูล
26 ชนิด และพบที่บูโหลนดอน 20 ชนิด
5. สัตวเลี้ยงลูกดวยนม พบทั้งหมด 7 ชนิด พบที่
บูโหลนเล 6 ชนิด และพบที่บูโหลนดอน 3 ชนิด 15. โครงการ “อนุรักษฟนฟูปาชายเลนและแนว
จากการสำรวจครั้งนี้ไดพบสัตวที่เปน New Record ปะการังหมูเกาะบูโหลน จ.สตูล”
ที่พบครั้งแรกในประเทศไทย คือ จิ้งจกไวทุกข (Lepido- โครงการนี้มี รศ.ดร.นพรัตน บำรงรักษ คณะการ
ุ
dactylus lugubris (Duméril & Bibron, 1836)) และ จัดการสิ่งแวดลอม เปนหัวหนาโครงการ เดินทางลงพื้นที่
พบผีเสื้อถุงทองปาสูง (Troides helena cerberus (C. & ภาพที่ 10.13 (ก) จิ้งจกไวทุกข (Lepidodactylus เมื่อวันที่ 5-6 เมษายน 2555 เขาไปทำการอบรมแนวทาง
R. Felder, 1865)) ที่เปนสัตวใกลสูญพันธุ ตามอนุสัญญา lugubris (Duméril & Bibron, 1836)) การดูแลรกษาปาชายเลนที่มีอยูในบริเวณอาวมวง และ
ั
ไซเตส (CITES) วาดวยการคาระหวางประเทศ ซึ่งชนิดของ อาวพังกานอย และอาวพังกาใหญ ไดสำรวจและติดปายชื่อ
สัตวปาและพืชปาที่ใกลสูญพันธุ ดังแสดงในภาพที่ 10.13 พรรณไมและปะการังที่อยูในบริเวณดังกลาวซึ่งมีหลาก
ิ
(ก) และ (ข) ตามลำดับ และไดดำเนนการขออนุมัตินำโครง หลายชนิด รวมทั้งใหความรูแกชาวบานในเรื่องการดูแล
รูปที่ 10.11 กิจกรรมการบันทึกเทปและการเรียนรูดนตรี การดังกลาวเขารวมในโครงการอนุรักษพันธุกรรมพืชอัน รักษา นอกจากนี้ไดใหคำแนะนำเรื่องสัตวน้ำ ปลาสวยงาม
พื้นบานของชาวเลอูรักลาโวยบนเกาะบูโหลนดอน เนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในแนวปะการัง การปองกันการคุกคามแนวปะการงจาก
ั
สยามบรมราชกุมารี แลว การทำประมง และการทองเที่ยวที่ผิดวธี การดูแลรกษา
ิ
ั
การทำประมงเชิงอนุรักษ ดังแสดงในรูปที่ 10.14
ภาพที่ 10.13 (ข) ผีเสื้อถุงทองปาสูง
(Troides helena cerberus (C. & R. Felder, 1865))
112 ÃÒ§ҹ»ÃШӻ‚ 2555 ÃÒ§ҹ»ÃШӻ‚ 2555 113
������������������_������������2555.indd 118 8/6/13 9:28 AM