Page 9 - 2019-9
P. 9
ข้อควรระวังและค�าแนะน�าในการใช้กัญชา
“กัญชา” ไม่ใช่ยาวิเศษที่ใช้ได้กับทุกโรคทุกอาการอย่าง
ครอบจักรวาล ยังจัดเป็นยาเสพติดประเภท 5 แต่อนุญาต
ให้ใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคได้เท่านั้น
“กัญชา” สามารถส่งผลข้างเคียงรุนแรงต่อร่างกายและ “กัญชา” ไม่ใช่ทางเลือกแรกของการรักษา “โรค
จิตใจ “ห้าม” ใช้กัญชาในคนปกติเพื่อนันทนาการโดย มะเร็ง” ฤทธิ์ของกัญชาในการรักษามะเร็งเกือบ
เด็ดขาด ทุกชนิดอยู่ในระหว่างการวิจัย ทดลอง “ห้าม”
ละทิ้งการรักษาในแผนปัจจุบัน ยกเว้นผู้ป่วย
“กัญชา” สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการป่วยทางจิตรุนแรง ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีแผนปัจจุบัน
โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติซึมเศร้า หรือป่วยด้วย
จิตเภทอยู่เดิม หรือมีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วย “กัญชา” คือ พืชสมุนไพร ที่มีคุณสมบัติใช้เป็น
โรคทางจิต ยารักษาหรือบรรเทาอาการของโรคบางอย่างได้
มีทั้งคุณและโทษ อีกทั้งมีช่วงความปลอดภัยของ
“กัญชา” อาจส่งผลให้ พิการ หรือ เสียชีวิต จากโรค ปริมาณการใช้ที่แคบมาก ออกฤทธิ์ต่อร่างกาย
หลอดเลือดสมอง และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ทุกระบบ จึงจ�าเป็นต้องควบคุม ดูแลการใช้
อย่างรอบคอบ
“กัญชา” อาจท�าให้เด็กปัญญาอ่อน หรือ ป่วยด้วย
โรคจิตเภท “ห้าม” ใช้กัญาในเด็กหรือผู้มีอายุน้อยกว่า “กัญชา” มีผลข้างเคียง ท�าให้ความดันโลหิต
25 ปี ยกเว้นเด็กที่ป่วยด้วยโรคลมชักบางประเภท ซึ่ง แปรปรวนรุนแรง ใจสั่น ชีพจรไม่คงที่ หัวใจ
ไม่ตอบสนองต่อยาแผนปัจจุบัน เต้นผิดจังหวะ และสติสัมปชัญญะแปรปรวน
ผลข้างเคียงที่รุนแรง คือสัญญาณชีพและ
“กัญชา” ไม่มีฤทธิ์เหนือกว่ายาแผนปัจจุบันในการรักษา ความรู้สึกตัวผิดปกติ ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้กัญชา
“ต้อหิน” แต่กลับจะส่งผลเสียต่อสมองและระบบประสาท ที่ไม่รู้ส่วนประกอบที่แน่ชัด ใช้ปริมาณมากเกินไป
มากกว่า หรือออกฤทธิ์ทับซ้อนกับยาแผนปัจจุบัน
กัญชา พืชสมุนไพรทางเลือก ที่ก�าลังเป็นที่สนใจและถูกจับตามอง อย่างไรก็ตาม
กัญชายังคงเป็นสารเสพติดให้โทษประเภท 5 จะเสพหรือปลูกโดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม่ได้นะคะ และผลการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ที่รองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา
ยังไม่แพร่หลายมากนัก ยังมีข้อมูลอีกหลายแง่มุมในการใช้กัญชา ดังนั้น หากจะใช้ใน
การรักษาควรรอบคอบและค�านึงถึงความปลอดภัยให้มากนะคะ ชีวิตจะได้ดี๊ดี ตลอดไปค่ะ
เอกสารอ้างอิง
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์. แพทยสภา. (2562). สืบค้นจาก https://tmc.or.th/pdf/fact/Info_cannabis_final_tmc.pdf
9 | L I B R A R Y 2 U